วันนี้ (15 กันยายน) พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจในการอภิปรายของ รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ต่ำกว่าคุณภาพมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระการแสดงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 12-13 กันยายนที่ผ่านมา
“ทั้งที่ผมเพิ่งชื่นชมรังสิมันต์ในสภา เทียบเคียงกับ ศิริกัญญา ตันสกุล และ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่อภิปรายมีข้อสังเกตดีเยี่ยม เปรียบเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคแทน แต่กลับต้องผิดหวังและไม่คิดว่ารังสิมันต์ที่เป็นตัวแทน สส. คนรุ่นใหม่ จะกลายพันธุ์เป็น สส. รุ่นเก่า ใช้เพียงการสร้างวาทกรรมสาดโคลน และพาดพิงให้คนอื่นเสียหายเท่านั้น” พิชัยกล่าว
พิชัยกล่าวว่า ข้อวิจารณ์เรื่องยาเสพติดและนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่ามีนายใหญ่ได้เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย เพราะการลงทุนใน Entertainment Complex ใช้เงินมหาศาล มุ่งหวังที่จะเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน ในกระบวนการต่างๆ ต้องอาศัยการลงทุนของภาคเอกชน และจำเป็นต้องดึงดูดผู้สนใจมาลงทุน ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับนายใหญ่ที่ท่านพูดถึง ดังนั้น จึงอย่าพูดแบบไร้หลักฐาน เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน
“อีกประเด็นคือการกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีถูกสั่งการจากแสงจันทร์ ถือเป็นวาทกรรมที่ไร้วุฒิภาวะ วันนี้ควรหยุดพูดกันได้แล้วว่าจะมีใครมาสั่งนายกรัฐมนตรีได้ วันนี้นายกรัฐมนตรีถือเป็นเบอร์ 1 ของการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และท่านก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ไม่มีใครจะสั่งนายกรัฐมนตรีได้ ในทางกลับกัน ถ้าผมพูดบ้างว่า เวลาท่านรังสิมันต์อภิปราย มีใครสั่งท่านได้บ้างให้พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้จะว่าอย่างไร”
พิชัยกล่าวว่า รังสิมันต์มีโอกาสเป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ก็น่าจะเป็นเกียรติ แต่ท่านยังคงไม่มีประสบการณ์ในการบริหาร ท่านดูจะตื่นเต้นกับข้อมูลหน่วยงานของต่างประเทศ จนลืมไปว่าการบริหารจัดการอาชญากรรมข้ามชาติมีมากกว่าตัวเลข
เพราะตั้งแต่ปี 2545 ที่ยาเสพติดลดลงเพราะว่าเราจริงจังกับการจัดการผู้ค้ายาเสพติด ในปี 2544 เราจับเฮโรอีนเกือบ 100 ตัน ทางทะเลโดยกองทัพเรือ เพราะการทำงานร่วมกันเป็นเวลานาน จนรัฐบาลได้รับการยอมรับจากนานาชาติ หลังจากปฏิวัติในปี 2549 เกิดอะไรขึ้น ท่านอาจจะเด็กไป เราขาดการสนับสนุนข้อมูลจากต่างประเทศ เพราะการยอมรับในรัฐบาลของเราต่ำลง ท่าน สส. คงไม่ทราบว่า ข่าวกรองและข้อมูลที่ได้รับทุกครั้ง จะต้องใช้เวลาประมวลผลและเตรียมการในการจับกุมหรือหยุดยั้งหลายปี
“หากท่านมีประสบการณ์ ท่านจะรู้ว่าการกล่าวหารัฐบาลโดยไม่มีข้อมูลและไปโยงใยจับแพะชนแกะกับนโยบายช่วยเหลือประชาชนอื่นๆ เช่น การจัดตั้ง Entertainment Complex ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดการลงทุนต่างชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยว และลดอาชญากรรมท้องถิ่นที่เกิดจากการพนัน ทำให้มีเงินมาให้เป็นทุนการศึกษาเด็ก เพื่อสร้างโอกาสนั้น ไม่ได้เป็นการช่วยประเทศ แต่เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้ประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้าน เห็นว่าท่าน สส. เก่งในการสาดโคลนมากกว่าการอภิปรายด้วยข้อเท็จจริง” พิชัยกล่าว
พิชัยกล่าวว่า ต่อประเด็นบัญชีม้า ท่าน สส. คงจะไปสนใจแต่ปริมาณบัญชีม้า 500 บัญชีที่ท่านเฝ้า จนไม่ได้ดูเลยว่าวันนี้ กสทช. สั่งปิดซิมม้ากว่า 2 แสนซิม และอีกกว่า 15,000 บัญชีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งระงับการใช้ ที่ท่านไม่ทราบคงเป็นเรื่องอาชญาวิทยาและกระบวนการยุติธรรมว่า กระบวนการที่จะหยุดอาชญากรรมต่างๆ ได้ ต้องพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กันไป ท่านเคยได้สัมภาษณ์ผู้ต้องหาคดีบัญชีม้าไหมครับ เวลาเขาอุ้มลูกมา ร้องไห้ บอกไม่มีอันจะกิน เลยต้องไปรับเงินค่าจ้าง มันเกิดจากอะไร หลายปีมานี้เราขาดอะไร สภาพเศรษฐกิจมันเป็นอย่างไร ขอย้ำว่ารัฐบาลเรารู้โลกแห่งความเป็นจริง บริหารงานจากข้อเท็จจริง ประสบการณ์จริง ไม่ใช่ไปตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่แล้วเอามาเปิดให้โลกรู้โดยไม่รู้ถึงผลกระทบของมัน ไม่รู้ถึงความลึกซึ้งของปัญหา
“ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรีม้าแบบที่มีการสาดโคลนขึ้นมาโดย สส. คนรุ่นใหม่ มีแต่นายกรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมาย บริหารประเทศจริง นั่งประชุมคณะรัฐมนตรี อยู่หัวโต๊ะด้วยตัวเองจริง พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจริง ข้อเท็จจริงตรงนี้ขอฝากให้ สส. รังสิมันต์ได้ทบทวน เพื่อเตรียมการอภิปรายในหนต่อไปให้ดีเหมือนที่เคยปฏิบัติมา” พิชัยกล่าว