พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เมษายนนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเชิญผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ
จับตาค่าเงิน-เงินสำรอง-ตลาดทุน
การหารือครั้งนี้จะเน้นไปที่แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าและเรียกคืนทุนกลับสหรัฐฯ มากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะหารือ ธปท. เพื่อให้ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อค่าเงินบาท เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ตลาดเงิน และตลาดทุนของไทย
บทบาทแบงก์ชาติในการผ่อนคลายเงื่อนไขช่วยผู้ส่งออก
นอกจากนี้ จะมีการหารือถึงมาตรการที่ธปท. สามารถดำเนินการเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดให้กับระบบธนาคารพาณิชย์ และช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของนโยบายภาษี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน โดยอาจรวมถึงการพิจารณามาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (monetary easing) และการดูแลสภาพคล่องในตลาดอย่างใกล้ชิด
จับตาการถือ U.S. Bond และทิศทางดอกเบี้ยโลก
กระทรวงการคลังยังเตรียมหารือถึงผลกระทบจากการที่ไทยถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน ว่าในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง ไทยควรบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์สหรัฐฯ อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
ทั้งนี้ การหารือร่วมกับ ธปท. ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจของไทยเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในเวทีเศรษฐกิจโลก และวางแนวทางเชิงรุกสำหรับการบริหารเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป