วันนี้ (7 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณี ซิงซิง (Xingxing) หรือ หวังซิง นักแสดงชายชาวจีนชื่อดัง หายตัวไปอย่างปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 หลังถูกมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นคนในค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของไทยหลอกให้มาแคสต์งาน โดยมีกระแสข่าวว่าขณะนี้พบตัวแล้วว่า ตอนนี้ต้องรอรายละเอียดของเหตุการณ์และข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร
ส่วนการหายตัวไปของดาราจีนรายดังกล่าวมีการเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มมาเฟียจีนที่มีอิทธิพลในประเทศไทย ซึ่งมีเสียงสะท้อนว่าอยากให้ดูแลปัญหาเรื่องนี้ ภูมิธรรมระบุว่า ตนจะทำทั้งหมด ทั้งเรื่องการข้ามแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะอยู่ในกระบวนการเดียวกันทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของผู้มีอิทธิพล เป็นสิ่งที่มีความกังวลไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งมีตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ดังนั้นจะทำควบคู่กันไปทั้งระบบ และยอมรับว่าในการทำงานมีการประสานกันกับทั้งรัฐบาลเมียนมา รัฐบาลจีน และทุกภาคส่วน
ภูมิธรรมกล่าวถึง พ.อ. ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ที่เสนอแก้ปัญหาต่างชาติถูกหลอก โดยกำหนดให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่สีแดง เพื่อเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบว่า ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะหากเป็นพื้นที่สีแดงจะมีปัญหากระทบกับเศรษฐกิจ แต่ในเรื่องของคนหายและเราเป็นเส้นทางผ่านก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
ทั้งนี้ วันที่ 27 มกราคมนี้ จะมีการเรียกประชุม โดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมอบนโยบาย ซึ่งจะเรียกทั้งนายอำเภอทั้ง 14 จังหวัด 51 อำเภอ, 76 ผู้กำกับสถานีตำรวจ, ผู้การจังหวัดทั้ง 14 จังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัด, กระทรวงกลาโหม, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.), กองอำนวยการความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือถึงการซีลชายแดน 2 ชั้น และตรึงกำลัง 3 ฝ่าย ได้แก่ ตำรวจ ทหาร และปกครอง
สำหรับเรื่องชายแดน ภูมิธรรมระบุว่าจะจัดการปัญหาทั้งเรื่องยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งการพูดคุยจะเป็นมาตรการหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกง่ายๆ
“ตั้งเป้าไว้ 6 เดือน ถ้า 6 เดือนไม่สามารถทำให้เห็นได้ว่าดีขึ้นหรือมีลักษณะของปัญหาลดลง จะต้องมีการสมัครใจย้ายออกนอกพื้นที่ แต่หากทำดีจะมีการพิจารณาความดีความชอบต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการที่เอาจริงเอาจัง” ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า หากไม่ดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะทำให้มีการข้ามฝั่งเข้ามาในประเทศไทยได้ง่าย เพราะฉะนั้นสถานีตำรวจในพื้นที่ต้องทำงานให้เต็มที่ และถือเป็นมาตรการแรกที่จะมีการประกาศใช้ และจากนี้ต้องดูเฉพาะราย เพราะแต่ละพื้นที่ แต่ละส่วน มีปัญหาไม่เหมือนกัน