×

ภูมิธรรมถามพรรคประชาชน ไม่ไว้ใจเพื่อไทยแล้วภูมิใจไทย น่าไว้ใจมากกว่าตรงไหน บอกพริษฐ์ท้ายุบสภา ไม่เข้าใจกลไกประชาธิปไตย

โดย THE STANDARD TEAM
02.09.2025
  • LOADING...
เพื่อไทย พรรคประชาชน

วันนี้ (2 กันยายน) ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ว่า เมื่อวานที่เซ็นเรื่องเข้า ครม. ยังไม่เห็นวาระ และตนเองมีอำนาจทำได้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อไม่มีนายกรัฐมนตรี ตนเองก็ทำหน้าที่แทน ไม่ใช่รักษาการ ซึ่งการเขียนหนังสือ ก็ออกในนามรัฐมนตรีโดยตรง ดังนั้น ก็มีอำนาจเต็มทั้งหมด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจโยกย้ายรวมถึงอำนาจในการยุบสภาด้วยใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ยุบสภาก็มีอำนาจ ส่วนการหารือความเป็นไปได้ในการยุบสภาตอนที่ประชุมนั้น ยังไม่ได้หารือ เพราะขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ตกลงกัน ยังจัดตั้งกระบวนการจนกว่าจะมีการประกาศชัดเจนว่าจับมือกัน หรือเข้าสภาจนได้นายกรัฐมนตรี

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนไม่ไว้ใจทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต่างฝ่ายต่างไม่ยกให้ใครเลย ก็เป็นสามขั้ว 

ส่วนโอกาสในการไหลไปรวมกันของขั้วเดิมนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลไปพูดถึงความเป็นไปไม่ได้ แล้วจะคุยกันได้อย่างไร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีที่พรรคประชาชนไม่เลือกใครเลย ภูมิธรรม จึงย้อนว่า ตนเองยังไม่ได้ยินแบบนั้น และขอให้รอประชุมให้ชัดเจน อย่าไปถ้าเลย หากเริ่มต้นจากถ้า จะทำงานไม่ได้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เทพไทย เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ระบุว่า หากจบไม่ลงตัว พรรคเพื่อไทยจะเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม กล่าวว่า ขอเทพไทยอย่าตัดสินใจแทนพรรคเพื่อไทย และขณะนี้อยู่ในกระบวนการอยู่แล้วก็มีการช่วงชิงพูดคุยความเข้าใจและอยู่ที่ว่าข้อสรุปในการร่วมรัฐบาลกันจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน 

 

ขณะนี้พรรคประชาชนก็ยังไม่ได้บอกว่า ไม่เอาพรรคเพื่อไทย และไม่ได้บอกว่าไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าพรรคประชาชนยังไม่มีข้อสรุป เพราะยังมีความเห็นต่างของ สส. อยู่ ก็ต้องรอให้เขาตัดสินใจให้ชัดเจน ถ้าบ้านเมืองไม่มีทางออกกลไกประชาธิปไตย ก็จะมีขั้นตอนให้ทำก็เลือกตรงไหนก็ได้ แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้บรรลุว่าการเจรจาตกลงมีข้อยุติ ว่าเสนอใครไปโหวต และโหวตแล้วได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ ดังนั้น วันนี้ไม่มีประโยชน์อะไร จนกว่าจะเห็นว่าการตกลงร่วมกันมีความชัดเจนเสนอชื่อเข้าสภา และโหวตจนสำเร็จจึงจะมาถามต่อได้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนกลัวการถูกหักหลังนั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า หักหลัง หรือไม่หักหลัง อยู่ที่พรรคประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ส่วนการแสดงความมั่นใจนั้น ตนเองพูดชัดเจน โดยการประกาศต่อที่สาธารณะแล้วว่า จะทำเรื่องต่างๆ และรอคำตอบเขา ซึ่งเขาต้องแจ้งคำตอบเรา 

 

ส่วนจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ก็อยู่ในดุลพินิจ จะเลือกพรรคเพื่อไทยแล้วมาร่วม หรือมาร่วมรัฐบาลกับเราเลยก็ได้ หรือจะเลือกพรรคภูมิใจไทย ตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยก็ทำได้ ไม่ต้องอุ๊บอิ๊บ ก็พูดมาเลย ถ้าจะร่วมเป็นรัฐบาล แล้วขอกระทรวงหลักๆ ตนเองว่าในวันนี้พรรคภูมิใจไทยฟังอยู่แล้ว ขอกระทรวงหลัก ที่จะไปแก้ปัญหาพิสูจน์ตัวเองให้เห็นในฐานะที่เป็นพรรค ที่ไม่เคยได้ไปปฏิบัติจริง ตนเองเชื่อว่า เวลานี้พรรคประชาชนขอกระทรวงมหาดไทยพรรคภูมิใจไทยก็ให้ จะเอาอย่างไร ก็เป็นการตัดสินใจของพรรคประชาชน ไม่ใช่การตัดสินใจของพวกตนเองหรือของใคร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อมาให้ยุบสภานั้น ภูมิธรรม ระบุว่า ข้อเสนอตอนนี้เหมือนกันเลย และเท่ากันด้วย และพรรคเพื่อไทยเองก็พูดถึงเรื่องจะขอเพิ่มข้อเสนอแนะต่าง ๆ ซึ่งจะเอาหรือไม่เอาก็ได้ แต่ข้อเสนอสุดท้ายที่ขอสนับสนุน และรับเงื่อนไขพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนกัน 

 

หากบอกว่าพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ ความเป็นจริง ก็ไม่ใช่ที่ตกลงกันไว้ว่าจะสนับสนุนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เราก็โหวตให้ครบทุกเสียง สิ่งที่ตกลงกันไว้ว่าเขาจะเป็นคนดูแล สว. เอง ที่จะเชิญชวนให้มาร่วมก็ไม่เป็นไปตามที่เขาพูด 

 

ดังนั้นจะมาว่า เราไม่ได้ ส่วนที่ขอเงื่อนไขว่า ขอให้รอ 10 เดือน เราเห็นต่างรอไม่ได้ เพราะเราคิดว่ามันมาก เกินไปกว่าจะพิสูจน์ และแก้ปัญหาให้ประเทศได้ จะมาบอกว่าเราฉีก MOU ซึ่งเราพูดชัดเจนแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ การตกลงจะตั้งรัฐบาล เราได้เชิญทุกพรรคมาพูดคุยซึ่งทุกพรรคชัดเจนว่าไม่เอามาตรา 112 และพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้นเงื่อนไขทุกอย่างชัดเจน ถ้าเรื่องนี้ยังกินแหนงแคลงใจพรรคเพื่อไทย อะไรที่เคยผิดใจก็ขอโทษไป และตนเองก็ลาประชุม ก.ตร. เพื่อไปเจรจาให้

 

“ถ้าบอกว่าแค่นี้ไม่ไว้ใจเพื่อไทย ถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีอะไรให้น่าไว้ใจ โหวตคัดค้านรัฐธรรมนูญมาตลอด ขนาดชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ก็พูดในที่ประชุม ไปเปิดดูได้” ภูมิธรรม กล่าว

 

ภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเขาใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หากพรรคประชาชนไม่ได้เป็น ก็เรียกที่ดินเขากระโดง ก็ยุติตามข้อนั้นก็จบแล้ว แสดงว่าเราก็ไม่สามารถเอาที่หลวงกลับคืนมาได้และเรื่อง สว. เขาก็สั่งได้ในกลไกต่าง ๆ เขาก็มีโอกาสที่จะทำได้ อะไรคือความมั่นใจของพรรคประชาชนที่มีต่อการเลือกครั้งนี้ ตนเองอยากให้พูดให้ชัด เราไม่ได้มีอะไรด้อยกว่าภูมิใจไทย ประวัติที่ผ่านมาเรื่องประชาธิปไตย เราชัดเจนกว่ามาตลอด 

 

ภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า การจะร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทยก็ทำได้ ตนเองมองว่ามันเป็นสิทธิ์ แต่อย่ามาบอกว่า เราไม่น่าไว้ใจ ภูมิใจไทยน่าไว้วางใจกว่า อยากให้พูดออกมาให้ชัดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าไว้วางใจนั้นอยู่ที่ตรงไหน ตนเองอยากให้พูดเหตุผลออกมา เราก็จะยอมรับ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนทำในขณะนี้ มีการมองว่าเป็นการเดินเกมเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเร่งยุบสภา ภูมิธรรม กล่าวว่า มองแบบนั้นก็มองเขาในแง่ร้ายเกินไปแสดงว่าที่เขาทำมาทั้งหมด โดยไม่สนใจว่าความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นแล้ว จะเป็นปัญหาต่อประเทศอย่างไร ตนเองไม่เชื่อว่าพรรคประชาชน จะคิดถึงขนาด เอาเกมส่วนตัวมาแก้ปัญหา หรือมาสร้างผลกระทบให้กับประเทศชาติ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานนี้ที่แกนนำพรรคประชาชนพูดชัดเจนว่ายุบสภาเลย ภูมิธรรม ถามกลับว่า ใครพูด ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชนเป็นคนพูด ทำให้ภูมิธรรม กล่าวว่า พริษฐ์ ไม่เข้าใจกลไกประชาธิปไตยหรือ กระบวนการประชาธิปไตย ขณะกำลังหารือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอยู่ๆ จะเรียกให้ยุบสภาแสดงว่าเอาความต้องการของตัวเองเป็นหลัก วันนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องตัดสินใจในกระบวนการประชาธิปไตยอื่นๆ 

 

ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวม และรายชื่อที่บอก ก็ไม่มีความมั่นใจแน่นอนได้นั้น พรรคภูมิใจไทย บอกว่าได้เสียง 280 เสียง ก็นับรวมเอาพรรคประชาชนเข้าไปด้วย แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าตกลงกับพรรคประชาชนแล้ว และที่มากำลังเกิดขึ้นนี้กำลังเล่นละครหรือ แล้วถ้าเชื่ออย่างนั้นพรรคประชาชน ก็ต้องรับผิดชอบแล้วกัน ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ 

 

เพราะฉะนั้น เมื่อกำลังพิจารณาอยู่ในกระบวนการที่กำลังจะเลือกรัฐบาลให้ได้จะไปพูดเรื่องอื่นๆ และมายุให้ยุบสภาแสดงว่าเจตนารมณ์ที่แท้จริง คืออยากยุบสภาอย่างเดียว แต่ตนเองคิดว่าที่อยากยุบสภามาตลอดก็ได้ แต่หลังจากตอนนั้นมันใช่เรื่องที่ต้องยุบสภา หรือเพราะยังไม่มีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

 

ดังนั้น ตนเองคิดว่าวันนี้สวมหัวใจของนักประชาธิปไตย อย่าใช้ความโกรธเกลียดกัน เห็นบอกว่าไม่ใช้ความเกลียดชัง แต่ว่าจำได้ ก็ถามว่าพรรคภูมิใจไทยดีกว่าพรรคเพื่อไทยตรงไหนถึงจะไปตัดสินใจยกมือให้ ตนเองฝากถามไปเลย และไม่ได้โกรธ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าการเมืองขณะนี้ยังไม่ถึงทางตันใช่หรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ตอนนี้ก็เห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันอยู่ และอาจมีบางเสียงที่ไปตีความที่บอกว่า 280 เสียง หรือ 300 เสียงแล้ว แสดงว่าพรรคประชาชนยกมือให้แต่พรรคประชาชนยังไม่ตัดสินใจเลย แล้วจะเชื่อใครดี แสดงว่าเรื่องนี้ต้องมีคนโกหก อาจเป็นหนึ่งคน สองคน หรือสามคน อาจจะโกหกหมดก็ได้ ตนเองว่าอย่าเพิ่งไปสรุปจากสิ่งที่แว่วมา เพราะวันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นเรื่องที่กำลังหาทางออกเพื่อสร้างผู้นำประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤต ดังนั้น ฝากสื่อมวลชนด้วยว่าถ้าอะไรที่ยังไม่ชัดเจนอย่าเอามาพูดให้เกิดความไม่มั่นใจและกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงความรู้สึกในการไปขอเสียงจากพรรคประชาชน และมีมวลชนตะโกนไล่นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนเองคิดว่าไม่ใช่พรรคประชาชนมาทำแต่เป็นผู้สนับสนุนของพรรค ก็เป็นสิทธิ์ เราเป็นคนสาธารณะ และจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไรสายตาคนก็เห็น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าพรรคเพื่อไทยจริงใจไม่สุด เพราะต้องการยื้อเวลา เพื่อที่จะดึงเสียง สส. ที่หันไปสนับสนุนพรรคฝั่งตรงข้ามให้กลับมา จนอาจนำไปสู่การรัฐประหาร ภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าโยนความผิดมาให้พรรคเพื่อไทย คำถามนี้เป็นคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ ทำไมไม่คิดกลับไปว่าการดึงเวลาเพื่อที่จะดึงคนของพรรคเพื่อไทยออกไป ตนเองมองว่า มันคิดได้ทั้งสองอย่าง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าฟางเส้นสุดท้ายในการตัดสินใจยุบสภา ภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่สถานการณ์ทางการเมือง อะไรที่ทำให้เดดล็อกไปไม่ได้กระบวนการทางประชาธิปไตยมีหนทางทางเลือกอีกหลายทาง ตนเองยังไม่คิดว่าต้องยุบสภา ถามตนเองก็บอกว่ามันมีกระบวนการอยู่แล้ว ซึ่งกลไกการยุบสภาก็เป็นกระบวนการ แต่ขณะนี้กำลังคุยกันว่าจะตั้งรัฐบาลอย่างไร ท่านอยากคิดไกลไปจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising