วันนี้ (12 สิงหาคม) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเรียกพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) แต่เป็นการประชุมตามปกติอยู่แล้วเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายที่ได้พูดคุยกันคือระหว่างการรับประทานอาหารที่บ้านปาร์คนายเลิศ
ในที่ประชุมพูดคุยกัน 2 เรื่องใหญ่คือ ความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล โดยเรื่องที่ต้องพิจารณาควบคู่กันคือการเปลี่ยนแปลงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดพิษณุโลก โดยพรรคที่ได้อันดับ 2 ในพรรคร่วมรัฐบาลคือพรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคเพื่อไทยได้อันดับ 4 ห่างกันเพียง 1,000 คะแนน ในที่ประชุมเห็นว่าควรให้พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกันเพื่อส่งผู้สมัคร
ส่วนเรื่องรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ปกติแกนนำรัฐบาลต้องได้ตำแหน่งทั้งประธานสภา และรองประธานสภา คนที่ 1 ส่วนพรรคอันดับ 2 เป็นรองประธานสภา คนที่ 2 แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นลักษณะพิเศษ เป็นการตั้งประธานสภา และรองประธานสภาก่อน พรรคจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันคือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะนั่งเก้าอี้ประธานสภา จึงไปประสาน วันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นที่รู้จักและเป็นบุคคลที่ สส. ให้ความเคารพมาทำหน้าที่ พร้อมตกลงกันว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะได้เก้าอี้รองประธานสภา พรรคละ 1 ที่นั่ง
ภูมิธรรมกล่าวต่อว่า วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงจึงได้หารือและถามความคิดเห็นจากพรรคภูมิใจไทย เขาอยากขอ 1 ที่นั่ง เราก็ไม่ขัดข้อง จะเป็นรองประธานสภา คนที่ 1 หรือ 2 ส่วนพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดคุยกัน ที่ประชุมจึงขอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยไปพูดคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อนวันพุธนี้ที่จะมีการประชุมสภา
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ตนเองพูดมาแต่ต้นว่าวันนี้เป็นการประชุมประจำเดือน ใครอยากเอาเรื่องอะไรมาพูดก็ได้ แต่เมื่อคุยเรื่องนี้จบก็ไม่มีการหยิบเรื่องอื่นขึ้นมาพูดคุยกัน ยืนยันว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลกไม่ใช่การฮั้ว เพียงแต่ดูว่าใครมีโอกาสในการลงสมัคร เพราะพรรคอื่นไม่รู้สึกว่าเขาจะได้อยู่แล้ว จึงให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 2 และ 3 พูดคุยกัน
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภา พรรคอื่นบอกว่าจะไม่ส่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัติก็ให้ไปคุยกันระหว่าง 2 พรรค ส่วน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่ 2 ระบุว่า จะไม่ลาออก หากเพื่อไทยเห็นด้วยตามนี้ก็อยู่ตามนี้ ไม่เห็นต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง
ภูมิธรรมยังชี้แจงว่า การประชุมวันนี้เดิมจะใช้ตึกบัญชาการ แต่ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นตึกไทยคู่ฟ้า แม้นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ ตนเองก็ใช้ตึกนี้ได้ เพราะขอนายกฯ แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรปิดบังสื่อมวลชน ถ้ามีก็คงไปแอบซ่อนอยู่ที่ตึกอื่น ส่วนเรื่อง Entertainment Complex ที่กระทรวงการคลังรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลรับไปแล้วทำประชาพิจารณ์อยู่ หากทำประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้วต้องมาส่งที่กฤษฎีกา เพื่อนำมาเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ก่อนส่งไปที่สภา ในกระบวนการยังไม่จบ ทั้งนี้ มีการตกลงในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการ อาจจะต้องพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน หาก ครม. ผ่านเรื่องนี้ก็แสดงว่าเห็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตาม ที่มีความเห็นว่าการทำประชาพิจารณ์ไม่เพียงพอ ต้องทำประชามติด้วย ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น ขอให้เป็นไปตามกระบวนการเสนอกฎหมาย เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้หยิบมาคุย เพราะถือว่าผ่าน ครม. ไปแล้ว
