×

ภูมิธรรม แจ้งกลางที่ประชุมมอบนโยบายปราบยาเสพติด บอกถกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศพรุ่งนี้ ใครไม่มา ไม่สนองนโยบาย สั่งย้ายทันที

โดย THE STANDARD TEAM
16.07.2025
  • LOADING...

วันนี้ (16 กรกฎาคม) ที่จังหวัดศรีสะเกษ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ห้องประชุม 1 โครงการชลประทานศรีสะเกษ

 

อนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานในช่วงแรกว่า การทำงานในจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ตามกฎหมายระเบียบข้อสั่งการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เราทำงานกันเป็นทีม บูรณาการหน่วยงานร่วมกันไม่แยกส่วนแยกฝ่าย โดยมีผลสำเร็จเป็นเป้าหมายร่วมกัน

 

ภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อมอบนโยบาย ตนมาภารกิจครั้งแรกภายใต้กระทรวงมหาดไทย เพราะตนเพิ่งได้รับตำแหน่ง และได้ร่วมงานกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทราบว่าได้มีการจัดเรียบร้อยแล้ว ตนเลยคิดว่ามาได้เลยดีเหมือนกัน ไม่ต้องจัดอะไร และรัฐมนตรีท่านเก่าจัดให้เรียบร้อย ถือว่าวันนี้เปิดเข้าร่วมรับฟังนโยบายที่อยากให้แพร่หลายให้พี่น้องประชาชนรับทราบ เพราะตนคิดว่าเรื่องของยาเสพติด ตนเคยพูดในที่ประชุมให้นโยบายมาแล้วว่า ปัญหานี้มันหนักหน่วงและรุนแรงจริงๆ ขณะนี้ไปที่ไหนก็มีแต่พูดถึงเรื่องนี้ จนกลายเป็นปัญหาที่สำคัญไม่แพ้กับเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นชีวิตของประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องทั้งประเทศตนไม่คิดจะทำที่ไหนที่เดียว

 

ภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะที่รับตำแหน่งรมว.มหาดไทย เรื่องนี้สำคัญไม่น้อยไปกว่า การสร้างเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งถือว่าเป็นรูปธรรมมากที่สุด และย้ำว่า วันนี้จะบอกว่าล้มเหลวก็ได้ แต่อาจจะทำได้ไม่ดีและเป็นปัญหา และสิ่งที่สำคัญหากเราทำได้สำเร็จตามที่เปอร์เซ็นต์ต่างๆ ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ที่พูดกันปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาทอล์กออฟเดอะทาวน์ คนพูดกันทุกหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่พอใจ สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่านั้นคือตนให้ความสำคัญกับความรู้สึกของชาวบ้านในพื้นที่ หากนำแต่ตัวเลขการจับกุมมา แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยอมรับ ก็ถือว่าท่านทำงานไม่ประสบความสำเร็จถือว่าล้มเหลว

 

ตนมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงดูทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งในปัจจุบัน เรื่องความมั่นคงมีรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการต่อสู้ป้องกันประเทศ แต่พูดถึงภัยด้านความมั่นคงในหลายมิติ อย่างเรื่องศาสนา ที่เพิ่งเกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องความมั่นคง ซึ่งปกติเราไม่เคยทำอะไรที่มากไปกว่าการจับสึก แต่ต้องพูดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมวงการคณะสงฆ์ เราได้คุยกันแล้วเดิมแค่จับสึก วันนี้จะเริ่มเห็นจับพระลาสิขาบทมารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งหากติดตามข่าววันที่ 17 กรกฎาคมเป็นต้นไปจะพบว่ามีกระบวนการจับกุมสีกาทั้งหลายที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหา ก่อนย้ำว่าพระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คือผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันของชาติ และถือว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เราต้องการยกตัวอย่างให้เห็นว่าเมื่อก่อนเราไม่ถือว่าเป็นปัญหาอาชญากรรม แต่ไม่ใช่ เพราะอาชญากรรมแปลงร่างมาในหลายรูปแบบ

 

ภูมิธรรม กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ตนเข้ามา 3 เดือนที่ผ่านมาอยากให้ประชาชนรู้สึกเปลี่ยนแปลง นั่นคือปัจจัยหลักปัญหาเรื่องยาเสพติดอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพราะท่านคือผู้บังคับบัญชาสูงสุดในจังหวัด การจะทำให้หมดไปคือมหาดไทย ผู้ว่าราชการฯ นายอำเภอ รวมไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องร่วมมือกัน วันนี้ตนมาเจอตัวเลข ชรบ. 6-7 แสนคน ถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ หากใช้ให้ถูกต้องถูกระบบก็จะเป็นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่ป้องกันรักษาชาติ วันนี้ภัยคุกคามประเทศไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ชายแดน ชายแดนเป็นเพียงพื้นที่เส้นลำเลียงยาเสพติด เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด

 

ภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ จะมีการนัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ และผู้บังคับบัญชา ผู้การจังหวัด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องเข้าร่วมประชุมทุกจังหวัด ไม่เข้าไม่ได้ เว้นแต่เรื่องเข้าเฝ้าเจ้านาย หรือป่วยหนักจริงๆ หากไม่เข้าร่วมถือว่าไม่สนองต่อนโยบาย ตนจะย้ายทันที ทำแบบนี้ไม่ได้

 

ภูมิธรรมย้ำว่า สิ่งที่ตนทำไม่ได้เกลียดชังอะไรทั้งนั้น แต่หากไม่ทำประเทศก็จะไม่มีความสงบตนเอาจริงตลอด ตนดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย ขณะเดียวกันจากที่ตนได้ลงพื้นที่ ผู้การไม่ทำงานก็มี หรือจะเกษียณในปีนี้ก็เฉยชาไม่มา ร้ายกว่านั้นเป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด

 

ตนอยากเห็นการแก้ไขปัญหานี้ อยากให้ทำควบคู่กันไปเลย คือ ผู้มีอิทธิพลทั้งหมดแหล่งมั่วสุม รวมไปถึงเรื่องนี้ด้วยเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และรัฐบาลจัดเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้มีอิทธิพลหากินในเรื่องนี้หรืออยู่ข้างหลัง เช่น การทวงหนี้โหด และผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ จึงบอกว่าให้จัดการให้หมด เรื่องยาเสพติด สถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย เพราะเข้าไปตรวจเจอยาบ้าเกลื่อนกลาด หากเราเข้มงวดจริงๆ เราเชื่อว่าเราสามารถจัดการได้ เพราะมีบางส่วนบางกลุ่มบางคนเข้าไปมีส่วนร่วม หรือหาผลประโยชน์จากสิ่งต่างๆ

 

ภูมิธรรม​ กล่าวอีกว่า​ ขอให้ทุกฝ่ายทำอย่างจริงจัง​ จะเป็นบุญผลกับชาวบ้านเพราะในวันนี้มันเข้าไปทำลายครอบครัว​ ทำลายชีวิต​ ทำลายอนาคตและโอกาสของประชาชนและเยาวชน พร้อมย้ำว่า​ ไม่ทำไม่ได้ ถ้าบอกว่าไม่ทำต้องไม่สบายใจแน่​ แต่ต้องมีการดำเนินการตามสมควร​ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนได้พูดมาทั้งหมดจะให้เห็นว่ายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยที่เป็นต้นเรื่อง ต้องประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการฟื้นฟู ตนบอกแล้วว่า 3 เดือนต้องเห็นผล ไม่ปล่อยหลุดโดยง่าย​ เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่ซับซ้อน​ และจะต้องทำจริงจัง ต้องทำจนกว่าจะไม่ใช่ภัยคุกคาม

 

ตนยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยถือว่าให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง​ ฉะนั้นต้องรีบจัดการ ทั้งในระดับจังหวัด​ อำเภอ​ ตำบลและหมู่บ้าน และสิ่งที่อยากให้ทำก่อนคือ เอกซเรย์ในทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้าน อย่างที่เคยบอก​ ชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนรู้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้​ ก็ถือว่ามีความผิด ต้องดูตามความเป็นจริง หากไม่สามารถดำเนินการได้เลย​ หรือไม่ทำอะไรเลย ก็ต้องรับผิดชอบ​ แต่ต้องไม่ให้มีผู้ค้า​ โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อยในหมู่บ้าน​ และจากที่ตนได้เดินทางไปในหลายจังหวัด​ ได้เป็นชื่อ เป็นตำแหน่ง ว่าใครอยู่ข้างหลัง ฉะนั้นต้องจัดการให้ชัดเจนที่สุด

 

ภูมิธรรม ยังเล่าถึงสมัยที่​เป็นรัฐมนตรีว่าการเมื่อปี 2547 ตอนที่เราเป็นรัฐบาลในช่วงนั้นสามารถจัดการเรื่องยาเสพติดได้หมดไป จริงๆตนสั่งมาแล้วเรื่อง Seal Stop Safe แต่ตนก็ยังคิดว่าหลังจากนี้จะต้องมีทั้ง​ให้รางวัลและให้โทษ​ ทำดีต้องได้ดีโดยไม่ลืม จะขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ทำงานที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งตนถือว่าผู้ติดยาเสพติดคือผู้ป่วย ลูกค้าเมื่อสมัยนั้นเขาเรียกว่าอาชญากร แต่ก็ต้องจำแนก​ เพราะกฎหมายมีอยู่แล้ว​ เรากำลังขับเคลื่อนเรื่องการยกเลิกกัญชา​ และพืชกระท่อม​ เรากำลังดำเนินการทั้งหมด เพราะชาวบ้านเขาไม่รับและเวลานี้ประเทศไทยเสียชื่อมาก

 

เวลาส่งไปและเขาจับได้​ ว่ามาจากเรา อย่างโกดังที่สนามบินสุวรรณภูมิ​ ทั้งกระท่อม​ กัญชา​ เต็มโกดัง และมีการทำกันอย่างเปิดเผย ขณะเดียวกันที่ผ่านมารัฐบาลได้พูดว่า​ กัญชาใช้ได้เฉพาะเรื่องสาธารณสุข แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ อาจมีทั้งนักการเมือง​ นักธุรกิจเข้าไปหาผลประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ และทำให้เป็นเรื่องปวดหัวของทุกส่วน พร้อมกล่าวว่า​ เจ้านายทรงห่วงใยในเรื่องนี้

 

ภูมิ​ธรรม​ ยังอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทย​ สร้างเครือข่าย​ตาสับปะรด​ ออกเป็นคำเสนอแนะ​ หรือคำสั่งการให้เห็นว่า​ ให้ดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม​ แก้ไขปัญหายาเสพติด​ รวมไปถึงมีมาตรการการป้องกันอยากให้จัดระเบียบสังคมในเรื่องของการป้องกัน ยับยั้งโอกาสในการกระทำความผิด ทุกจังหวัดต้องดำเนินการค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising