×

ภูมิธรรมยืนยัน ไทยมีหลักฐาน กัมพูชาล้ำ ‘โนแมนส์แลนด์’ พร้อมปิดด่านหากเจรจาไม่สำเร็จ ชี้กัมพูชาเมิน JBC เตรียมส่งเรื่องสู่ศาลโลก

โดย THE STANDARD TEAM
05.06.2025
  • LOADING...

วันนี้ (5 มิถุนายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (4 มิถุนายน)

 

โดยระบุว่าได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่าข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่อยู่ในปัจจุบันคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการวางทุ่นระเบิดซึ่งเป็นภาพเก่าบริเวณเขาพระวิหาร ตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสนและทำลายความร่วมมือของประชาชน พร้อมเตือนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลเท็จ ซึ่งอาจมีผลกระทบทางกฎหมาย

 

ภูมิธรรม ชี้แจงถึงแนวคิดการปิดด่านของแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นมาตรการขั้นต่อไปหากการเจรจาของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยเป็นการเสนอตามลำดับขั้นตอน นอกจากนี้ ยังได้ตำหนิกรรมการบริหารและโฆษกพรรคการเมืองบางพรรคที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จในกลุ่ม LINE ต่างๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านมีสติในการนำเสนอข้อมูล

 

ในส่วนของการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ภูมิธรรม ยืนยันว่าข่าวที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีเรียกประชุมวงอื่นทำให้เหล่าทัพรอเก้อนั้นไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางไปพร้อมกับตนเมื่อวานนี้ ซึ่งตนได้สั่งให้มีการประชุม สมช. ชุดเล็กเพื่อพิจารณาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว และจะสรุปรายงานส่งให้ตนในวันนี้

 

พร้อมสั่งการให้ สมช. ในฐานะฝ่ายนโยบายประชุมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝ่ายนโยบายและปฏิบัติการสอดคล้องกัน โดยหากมีการปิดด่าน สมช. จะเป็นผู้พิจารณาโดยตรง แต่หากมีการประกาศกฎอัยการศึก อำนาจจะอยู่ที่แม่ทัพภาคที่ 2

 

ภูมิธรรมยังระบุว่าเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีฯ ได้มีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ, ผู้บัญชาการทหารบก, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลทำงานอยู่ตลอดเวลา และขอร้องอย่าสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติด้วยข่าวปลอมที่บั่นทอนรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าทุกฝ่ายรักประเทศและขอให้ระมัดระวังเรื่องข่าวปลอม

 

สำหรับการรุกล้ำเขตแดนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ 200 เมตร หรือ โนแมนส์แลนด์ ภูมิธรรมอธิบายว่าอยู่ในระหว่างการใช้กลไก JBC ในการจัดการปัญหา ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ ยอมรับว่ามีการล้ำเข้ามาในจุดดังกล่าว แต่ไม่ใช่การล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลง JBC ข้อ 5 ตนเชื่อว่ากลไก JBC จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่หากกัมพูชาไม่ยอมรับก็จะเป็นปัญหา

 

ก่อนย้ำว่าการที่กัมพูชาเข้ามาในพื้นที่โนแมนส์แลนด์ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงแต่ยังไม่ใช่การบุกรุกแผ่นดินไทย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นปัญหาชายแดนที่ยังถกเถียงกันไม่จบ พร้อมยืนยันว่าจะใช้กลไกสันติวิธีระหว่างประเทศผ่านการเจรจาในการแก้ไขปัญหา แต่ไม่ใช่การยอมจำนน

 

ภูมิธรรมยังกล่าวถึงข่าวต่างๆ ที่ออกมาว่าเป็นการสร้างความแตกแยกภายในประเทศ พร้อมขอให้ผู้ที่ต้องการเอาชนะทางการเมือง หรือทำลายเครดิตของตน อย่าได้นำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาใช้เป็นประโยชน์ทางการเมือง หรือสร้างความแตกแยกให้กับประเทศชาติ

 

ส่วนกรณีที่กัมพูชาฟ้องเรื่องทหารไทยทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากเหตุปะทะที่ช่องบกในเวที IISS Shangri-La Dialogue ที่ประเทศสิงคโปร์ ภูมิธรรมชี้แจงว่า ไม่ใช่การฟ้องร้อง แต่เป็นการสอบถามจากทหารกัมพูชาซึ่งไม่ใช่ตัวแทนระดับสูงในระหว่างช่วงถาม-ตอบ ซึ่งฟิลิปปินส์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว จึงไม่ถือเป็นสาระสำคัญที่ไทยจะต้องดำเนินการใดๆ แต่หากเป็นตัวแทนกัมพูชาขึ้นพูดบนเวที ไทยจะต้องประท้วง

 

ภูมิธรรม ยังระบุว่าได้สั่งการให้กองทัพบกเตรียมความพร้อมตั้งแต่ที่กัมพูชามีการเผาศาลาตรีมุข เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากองทัพมีความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น แต่หากมีการละเมิดข้อตกลงก็ต้องไปเจรจาใน JBC ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ

 

โดยทางการไทยได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมแล้ว และมีหลักฐานการยื่นประท้วงของกองกำลังสุรนารีทุกครั้ง เพื่อแสดงว่าไทยไม่ได้ยอมรับในการเจรจา หากการเจรจายังไม่สำเร็จก็จะต้องคิดว่าจะใช้มาตรการอย่างไรต่อไป

 

เมื่อถามถึงการระงับทุกฝ่ายในระหว่างรอเจรจา ภูมิธรรมกล่าวว่านี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ไม่สามารถห้ามใจของแต่ละฝ่ายได้ หากเกิดอะไรขึ้น ไทยก็จะประท้วงหรือดำเนินการ พร้อมย้ำว่าการใช้วิธีเจรจาไม่ได้หมายความว่าไทยจะยอมศิโรราบ

 

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า กัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ไม่เข้าร่วมการเจรจา JBC ร่วมกับไทย แต่จะใช้แนวทางนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลกเพื่อพิจารณาข้อขัดแย้งใน 4 พื้นที่ ได้แก่ ช่องบก, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย

 

ภูมิธรรมกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า การเจรจา JBC ควรโฟกัสที่จุดเกิดเหตุเท่านั้น เพราะยิ่งคุยกว้างยิ่งจบยาก หากไทยไปตามข้อเสนอของกัมพูชา ก็เท่ากับเป็นการเปิดประเด็นปัญหาทั้งหมด ตนยังย้ำว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ไทยไม่ได้รับมติของศาลโลก

 

ดังนั้น หากกัมพูชานำเรื่องขึ้นศาลโลก ก็ต้องได้รับการยอมรับจากไทย ซึ่งไทยยืนยันจะให้จบที่การประชุม JBC ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยไทยใช้สติในการพิจารณาว่าแค่ไหนอย่างไรจึงจะเหมาะสม พร้อมยืนยันว่าไทยเตรียมพร้อมตลอดแนวชายแดน และโฟกัสจุดที่เป็นปัญหา

 

สำหรับความสัมพันธ์พิเศษระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ สมเด็จฮุน เซน ที่อาจช่วยยุติปัญหาได้หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ฝ่ายปฏิบัติการยังทำเต็มที่ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวที่ทักษิณจะคุยเพื่อช่วยประเทศอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่ตนก็ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่ดูแลอยู่และเคลื่อนไหวกันทั้งหมด

 

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าทีของกัมพูชาที่เปลี่ยนไปสู่การนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising