×

ภูมิธรรม-อนุทิน ย้ำชัด เกาะกูดทุกตารางนิ้วเป็นของไทย ถามคนจุดกระแส MOU 2544 ต้องการให้ยกเลิกอะไร

โดย THE STANDARD TEAM
04.11.2024
  • LOADING...
MOU 2544

วันนี้ (4 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยก่อนเข้าประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า ยังไม่ทราบประเด็นการประชุมในวันนี้ แต่ในการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลมีการคุยกันไว้ว่าจะประชุมทุก 1-2 สัปดาห์ และทุกสัปดาห์จะรับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อพูดคุยเรื่องงานในประเด็นต่างๆ หรือใครมีเรื่องอยากหารือก็เสนอมา ซึ่งวันนี้มีเวลาว่างจึงนัดคุยกัน เมื่อคุยเสร็จแล้วจึงจะรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะหารือเรื่อง MOU 2544 และเรื่องประชามติตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ขึ้นนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะหยิบยกขึ้นมาคุยหรือไม่ ส่วนที่มีการระบุว่า MOU 2544 ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยยกเลิก แต่ยังค้างอยู่เพราะเปลี่ยนรัฐบาล จะนำมาพิจารณาหรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงคือมีการพูดว่า สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์พูดเหมือนยกเลิก แต่จริงๆ แล้วยังไม่ยกเลิก เพราะยังไม่มีมติ ครม. และที่ผ่านมา MOU 2544 มีหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง สมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นคนไปเจรจาที่กัมพูชาในปี 2564 ซึ่งก็ยังค้างอยู่

 

แต่ MOU 2544 ไม่เกี่ยวกับเกาะกูด และยืนยันว่าเกาะกูดยังเป็นของไทย เพราะตามสนธิสัญญาฝรั่งเศสเกาะกูดเป็นของไทย วันนี้เกาะกูดเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด เมื่อ 2 วันก่อนผู้บัญชาการทหารเรือลงพื้นที่ ซึ่งกองกำลังทหารก็ตั้งอยู่ที่นั่น ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะทหารมีหน้าที่เดียวคือการรักษาอธิปไตย ดังนั้นเกาะกูดเป็นของไทยอยู่แล้วไม่ต้องไปเจรจา ตนไม่เข้าใจว่าการจุดกระแสเรื่องเกาะกูดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ใด

 

ทั้งนี้ การจะคุยเรื่อง MOU 2544 ไม่ได้ตกลงอะไรกับใคร แต่เป็นเรื่องที่ยังไม่จบ ยังค้างไว้แล้วมาคุยกัน ถ้าจะคุยเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลต้องคุยเรื่องดินแดนควบคู่กันไปด้วย ตรงนั้นมีปัญหาว่าเส้นแบ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าของเกาะกูดอยู่แล้ว แต่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เข้าไปอยู่ตามรอยหยักของเกาะ ดังนั้นการพูดคุยที่ค้างอยู่คือเราอยากลากเส้นตรงโดยไม่ต้องวกเข้าเกาะกูด ซึ่งถึงอย่างไรประโยชน์ตรงนั้นก็เป็นของเราอยู่แล้ว ตนจึงไม่เข้าใจเจตนาของคนที่มาเคลื่อนไหว และตนยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการหารือกับรัฐบาล

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรกับกรณีที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกทั้งที่ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ภูมิธรรมกล่าวว่า “มันจะไปยกเลิกอะไร ยกเลิกสิ่งที่ไม่มี จะไปยกเลิกอะไร ถ้ายกเลิกว่าไม่ให้เสียเกาะกูด เกาะกูดก็เป็นของไทยอยู่แล้ว จะให้ไปยกเลิกอะไร เพราะรัฐบาลไม่ได้หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาดำเนินการเลยตั้งแต่แรก”

 

พร้อมถามกลับว่า ที่เคลื่อนไหวเพราะจะหาประเด็นหรืออย่างไร หรือมีประเด็นใดที่อยากให้แก้ปัญหาก็อยากให้พูดให้ชัดเจน

 

อนุทินยัน เกาะกูดทุกตารางนิ้วเป็นดินแดนในราชอาณาจักรไทย

 

ขณะที่ อนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ใน​ฐานะ​หัวหน้า​พรรค​ภูมิใจ​ไทย​ กล่าวถึงการนัดหารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุย คงเป็นเรื่องพระราชบัญญัติหรืออะไรที่ยังค้างคาอยู่

 

ส่วนประเด็นอะไรที่พรรคภูมิใจไทยจะเสนอหรือแลกเปลี่ยนในวงหารือนั้น อนุทินระบุว่า เดี๋ยวต้องฟังก่อน เนื่องจากว่านี่เป็นการหารือ จึงยังไม่มีเอกสารหรือวาระประชุมอะไร เป็นการหารือทั่วไปตามที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ หากมีประเด็นอะไรก็จะพยายามให้เป็นทางการน้อยลง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีโครงการอะไรของรัฐบาลที่พรรคภูมิใจไทยไม่ปลื้มบ้างหรือไม่ อนุทินยืนยันว่า ไม่มี เราทำงานด้วยกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงกระแสข่าวว่า การแก้ไขสัมปทานรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) มีพรรคร่วมรัฐบาลไม่ปลื้ม อนุทินยืนยันว่า ไม่มี ตนยังไม่เคยได้ยิน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีข้อกังวลเรื่อง MOU 2544 หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จากการเสาะหาข้อมูลและเจตนารมณ์ต่างๆ ตนยืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทยและไม่มีประเด็นอื่นใดทั้งสิ้น เกาะกูดเป็นดินแดนในราชอาณาจักรไทยทุกตารางนิ้ว เรามีประชาชนอยู่ที่นั่นและได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด เพราะฉะนั้นข้อกังวลที่ว่าจะเสียดินแดนบางส่วนนั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่มี เนื่องจากมีพระบรมราชโองการและยังมีบันทึกข้อมูลต่างๆ โดยทุกฝ่ายยอมรับว่าเกาะกูดเป็นของไทย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรถึงกระแสเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 อนุทินกล่าวว่า MOU หรือบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเป็นการลงนามทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจะยกเลิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นยกเลิกไม่ได้ ต้องยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย จึงต้องระมัดระวังเรื่องการรับข่าวสาร บางกลุ่มก็ไปพูดว่า เคยจะถูกยกเลิกหลังจากมีการลงนามไปแล้ว ถ้าถามว่ายกเลิกได้หรือไม่นั้นก็ยกเลิกได้ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเห็นพ้องต้องกันเหมือนกับสัญญา ตรงนี้ตนอยากขอให้ผู้สื่อข่าวอย่าเสนอประเด็นข้อเสนอที่จะให้ยกเลิก เพราะต้องอาศัยการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย

 

แฟ้มภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X