วันนี้ (6 มิถุนายน) เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีหารือกับ พล.อ. เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ว่า เป็นการพูดคุยเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงด้วยความระมัดระวัง ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกโดยส่วนตัว และกรอบที่พูดคุยคือเราจะคลี่คลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะรัฐบาลไทยยืนยันว่าไม่อยากเห็นสงคราม และเราไม่ได้กังวลหากเกิดการสู้รบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความสูญเสียที่เราไม่อยากให้ไปถึงตรงนั้น และด้วยความสัมพันธ์ที่เรามีอยู่ก็น่าจะคุยกันได้
ภูมิธรรมกล่าวว่า สรุปตนได้ฝากไปว่าเมื่อเราเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่าย ก็อยากให้เป็นการคุยกันแบบเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เรายืนยันว่าจะไม่นำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก เพราะเราไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกตั้งแต่ปี 2503 ดังนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ซึ่งเราก็ไม่อยากไปคุยในส่วนนั้น เราจำกัดเฉพาะเรื่องที่เกิดความขัดแย้ง โดยข้อเสนอตนคือให้ถอยออกไปเหมือนกับปี 2024 ที่เคยตกลงกันไว้ ถอยออกไปบริเวณศาลาตรีมุข เป็นจุดที่ถอยออกไปประมาณ 150-200 เมตร และในการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ก็ต้องนำแผนที่และเรื่องต่างๆ มาพูดคุยกัน แต่หากสมมุติว่าติดขัดไม่สามารถตกลงได้ ก็ให้ตัวแทน JBC ลงไปดูในสถานที่เกิดเหตุเพื่อสรุป
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงมาตรการต่างๆ ซึ่งหากยังพูดคุยกันไม่ได้เราก็มีความจำเป็นต้องเข้ามาจัดการ ซึ่งทางกัมพูชาบอกว่า อยากหลีกเลี่ยงสงคราม และไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย ซึ่งจากข้อเสนอทั้งหมดที่ตนได้บอกไป จะบอกว่าเขาเห็นชอบก็ไม่ได้ แต่ทางกัมพูชาบอกว่า เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ และได้ฝากเขาไปนำเรียน พล.อ. ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อให้พิจารณา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีนักวิชาการเสนอว่าควรมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ภูมิธรรมกล่าวว่า เราทำอยู่แล้ว ทั้งสภาความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ และตนได้ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติประชุมชุดเล็กกันไปก่อน และที่ประชุมใหญ่วันที่ 6 มิถุนายนจะมีการเสนอว่าวิเคราะห์สถานการณ์กันอย่างไร หากมีข้อสรุปถึงข้อเสนอที่ตนกล่าวมาตนก็จะแจ้งให้ทราบ ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางกัมพูชาไม่ได้มีข้อเสนออะไรมาเพิ่ม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุม JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะยังเดินหน้าต่อหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ยังมีเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องระวังเรื่องข่าว เพราะเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ตนบินไปพบฝ่ายกัมพูชา ที่ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ก็โดนทัวร์ลง บอกว่าตนไม่มีศักดิ์ศรี
“ผมว่าเลิกสิ่งเหล่านี้เถอะ เพราะมันทำให้การทำงานและแก้ปัญหายุ่งยากขึ้น ผมไม่ได้กลัวสงคราม สิ่งที่เป็นผลกระทบทั้งสองฝ่ายคนที่โดนก่อนคือทหารที่อยู่แนวหน้าและประชาชนที่อยู่ชายแดน ซึ่งเราไม่กลัวถ้ามันจำเป็นต้องเกิด แต่อย่าไปเที่ยวยุให้เกิดสงครามเลย สงครามไม่เคยดีกับใครสักคน ที่โพสต์ไปขอเป็นข้อเท็จจริงก่อน” ภูมิธรรมกล่าว