วานนี้ (26 กรกฎาคม) ที่ศูนย์ปฏิบัติการ 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พิเชษฐ์ ปาณะพงศ์, ปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พต.ต.ต. ภรศักดิ์ นวนหนู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และ นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนภายหลังการประชุมระบบ Zoom ร่วมกับ ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ถึงแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการ ‘Phuket Sandbox’ ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จากนั้นเป็นการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อครั้งที่ 44/2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวยืนยันว่า จังหวัดภูเก็ตยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการ Phuket Sandbox ต่อไป แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิมก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้มาตรการ Phuket Sandbox ต้องหยุดลง
ขณะเดียวกัน จังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับเพิ่มมาตรการเข้มในการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ภูเก็ต โดยกำหนดให้คนที่จะเดินทางมาจาก 76 จังหวัด รวมทั้งคนภูเก็ตที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด คือมีการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผลตรวจโควิดเป็นลบภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง โดยมาตรการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564
ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตชี้แจงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า วันนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ 27 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่ 23 ราย จากมาตรการ Phuket Sandbox 1 ราย และมีผู้ป่วยตามโครงการรับกลับบ้าน 3 ราย
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อ ยังคงอยู่ระดับ 20 ต้นๆ อีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกแยกกักในสถานที่ที่รัฐจัดให้และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ของประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตเปิดโครงการ Phuket Sandbox มีผู้คนที่ต้องการทำงานเดินทางเข้ามาทำงานในภูเก็ตมากขึ้น มีกลุ่มญาติพี่น้องของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามมาตรการ Phuket Sandbox และประเด็นสำคัญคือพบเชื้อกลายพันธุ์ ทำให้มีการแพร่กระจายไปในวงกว้างและรวดเร็วมากขึ้น จึงขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่ามาตรการป้องกันตนเอง คือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง และไม่เข้าไปอยู่ในที่ชุมชนแออัด จะเป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดแม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระจังหวัดภูเก็ตกล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในจังหวัดภูเก็ตว่า พี่น้องประชาชนในจังหวัดภูเก็ตกว่า 70% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และจะมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster Dose) ให้กับทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรด่านหน้า ซึ่งขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับบุคลากรดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งเรื่องของจำนวนเตียงและโรงพยาบาลสนามที่พร้อมจะรองรับผู้ป่วย
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกล่าวถึงสถานการณ์ที่ด่านตรวจทางบกด่านท่าฉัตรไชยว่า หลังจากจังหวัดภูเก็ตยกระดับเข้มคัดกรองคนเข้าภูเก็ต ทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนและมีผลตรวจโควิด ทีมงานหน้าด่านซึ่งบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง จิตอาสา ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจวันละเกือบ 200 คน สลับหมุนเวียนเข้าเวรคัดกรองผู้คนเข้าพื้นที่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะมีรถและคนส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเข้าภูเก็ตได้เพราะไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ซึ่งทุกคนเข้าใจประกาศของจังหวัดที่จำเป็นต้องคัดกรองคนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ด้าน ปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อครั้งที่ 44/2564 เพิ่มมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยงที่เป็นจุดของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด ดังนี้
- ปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า และเฟสติวัล เป็นระยะเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564
- ปิดโรงเรียน สถานศึกษา ต่อไปจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2564
- ปิดสนามกีฬา สนามฟุตบอล สนามฟุตซอล และสนามแบดมินตัน
- การจัดกิจกรรมรวมตัวกันได้ไม่เกิน 100 คน
- ตลาดนัด/ตลาดสด จำกัดคนเข้าใช้พื้นที่ 4 ตารางเมตรต่อคน
มีผลตั้งแต่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564