วันนี้ (18 กรกฎาคม) ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค นำโดยกรรมการบริหารพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรค, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ประกอบด้วย เศรษฐา ทวีสิน, ชัยเกษม นิติสิริ และ แพทองธาร ชินวัตร ร่วมประชุม ใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง
จากนั้น นพ.ชลน่าน แถลงระบุว่า ที่ประชุมมีมติสำคัญกรณีประธานรัฐสภานัดหมายสมาชิกนัดประชุมวันที่ 19 กรกฎาคม โดยมีวาระให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยที่ประชุมพรรคเห็นชอบกับการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ คนที่ 30 โดย 8 พรรคร่วมขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอชื่อ จึงได้มอบหมายให้ สุทิน คลังแสง ส.ส. บัญชีรายชื่อ เป็นผู้เสนอชื่อ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากมีสมาชิกรัฐสภาตั้งญัตติถามว่าการโหวตพิธาเป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ และขอให้ลงคะแนน เราจะเห็นค้านผู้เสนอญัตตินี้ เพราะเห็นว่าการเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ โดย ส.ส. 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยพร้อมขานชื่อพิธา
เมื่อถามว่าหากในวันที่ 19 กรกฎาคมไม่สามารถโหวตพิธาได้อีก ทางพรรคร่วมจะดำเนินการอย่างไรต่อ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรอดูว่าพรรคแกนนำอันดับหนึ่งเขาจะดำเนินการอย่างไร และเขาจะแถลงว่าเมื่อรัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบ และให้พรรคอันดับสองมาดำเนินการ ซึ่งถ้าหากเขาประกาศออกมาแบบนั้นก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพรรคอันดับหนึ่ง และการพูดคุยกันใน 8 พรรคร่วม
ส่วนกรณีที่แพทองธารระบุจะเสนอชื่อเศรษฐาเป็นนายกฯ หากพิธาโหวตไม่ผ่าน ทางพรรคได้เตรียมความพร้อมอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่ได้เตรียมการในรูปแบบของคณะกรรมการ เพราะฟังจากการแถลงของพรรคก้าวไกลบอกมาแบบนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิคาดการณ์ได้ แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติที่ต้องเตรียมการอะไร
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่เตรียมการรองรับจะเสียหายหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เสียหาย แต่ดูแล้วมารยาทไม่น่าจะดี