วันนี้ (19 มิถุนายน) ที่อาคารรัฐสภา ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2 หลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
“ได้หารือกับหัวหน้าพรรคว่าในกรณีที่พรรคเราเป็นเสียงส่วนน้อยของสภาฯ หรือฝ่ายค้าน ผมขอลาออกเพื่อที่ไปทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ สส. ฝ่ายค้าน” ภราดรกล่าว
ภราดรชี้แจงว่า แต่ต้องขอชี้แจงเหตุผลว่าตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาราษฎรคนที่ 2 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 แม้ว่าจะไม่มีคู่แข่งขัน แต่เป็นที่รู้กันว่าตนเองมาจากฟากฝั่งของเสียงข้างมากหรือฟากของฝ่ายรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยได้ประชุมหารือกันและส่งตนไปเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อมาดำรงตำแหน่งนี้ ตระหนักดีว่าตนเองมาจากเสียงข้างมากของสภาฯ และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสภาผู้แทนราษฎรว่าตำแหน่งประธาน รองประธานทั้งสองคนไม่มีที่จะมาจากเสียงข้างน้อย แม้ว่าจะไม่ได้มีการระบุเอาไว้ในตัวบทกฎหมาย แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นแนวปฏิบัติที่เข้าใจ และถือกันมาเช่นนั้น
“แม้ว่าตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และข้อบังคับไม่ได้ระบุไว้ แต่ด้วยมารยาททางการเมืองและความรับผิดชอบทางการเมืองและเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับสภาผู้แทนราษฎร จำเป็นต้องตัดสินใจ ด้วยการลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 เพื่อคืนอำนาจให้กับสภาในการสรรหาคนที่มีความเหมาะสมจากฟากฝ่ายเสียงข้างมากของสภา เพื่อที่จะมาทำหน้าที่รองประธานสภาคนที่ 2 ต่อไป” ภราดรระบุ
ภราดรยังขอขอบคุณ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 1 ที่ตลอดระยะเวลา 9 เดือนกับ 8 วัน ของตนเองในตำแหน่งหน้าที่ ท่านเอ็นดู เมตตา และให้โอกาสในการที่จะดำเนินนโยบายต่างๆภายใต้ร่มใหญ่ของท่าน นั่นคือ พยายามที่จะทำให้สภาเป็นของประชาชนให้ได้
“เรารู้ว่าตำแหน่งทางการเมืองแบบนี้อยู่ไม่นาน มีวันมาแล้วก็มีวันไป แต่ทุกคำขอร้อง ทุกแนวทางที่ได้มอบหมาย ให้ไปดำเนินการทุกส่วนของสภาก็ช่วยดำเนินการตามแนวทางที่ได้มอบหมาย ฉะนั้น จะขาดไม่ได้…หากผมจะพูดว่าสำเร็จลุล่วง ก็ยังไม่สำเร็จลุล่วงทั้งหมด ขอบคุณพี่น้องผมที่ยืนอยู่ที่นี่พรรคภูมิใจไทย ไม่มีพวกเขาก็ไม่มีรองประธานอย่างผม เขาสนับสนุนทุกการทำหน้าที่ของผม วันที่ผมมาดำรงตำแหน่งเขาเข้ามาส่งผม วันนี้วันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง ผมก็เปลี่ยนสถานะก็มารับผมกลับบ้าน” ภราดรกล่าว