ในขวบปีที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องอยู่ในช่วงขาลง มองไปข้างหน้าก็เห็นแต่ปัญหาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความโรยราของผู้เล่นที่เป็นคีย์แมนของทีม ไปจนถึงคดีความใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมากมายมหาศาล อย่างน้อยที่สุดการคว้าแชมป์คาราบาวคัพ หรืออีเอฟแอลคัพก็ช่วยให้ความสุขได้กลับคืนสู่พวกเขาบ้าง
มากกว่านั้นคือการที่พวกเขาได้เห็นประกายแสงสีฟ้าสว่างสดใสจากเด็กหนุ่มที่ใครต่อใครเฝ้ารอคอยเขามาอย่างยาวนาน
ฟิล โฟเดน วัย 19 ปีที่เป็นสายเลือดแท้ของซิตี้ทั้งตัวและหัวใจ โตมากับเพลง Blue Moon สำแดงเดชให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในขุนพลที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา สามารถพึ่งพา และแฟนบอลสามารถที่จะฝากความหวังได้
แม้ว่าในความจริงเขาอาจจะพร้อมมานานแล้วก็ได้
ชื่อของโฟเดนโด่งดังในหมู่แฟนฟุตบอลอังกฤษมาหลายปี นับตั้งแต่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 17 ปีสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้เมื่อปี 2017 โดยในรายการนั้นเขาเป็นนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดของทีม เคียงข้าง ริอาน บรูว์สเตอร์ กองหน้าดาวรุ่งของลิเวอร์พูล
ความเร็ว คล่องตัว เทคนิค ไหวพริบ ความชาญฉลาดในการเล่น และเท้าซ้ายที่พิเศษนั้นทำให้แฟนซิติเซนส์หลายคนคาดหวังที่จะได้เห็นเขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแกนหลักของซิตี้ ในฐานะความภาคภูมิใจของสโมสรที่สามารถปั้นดาวรุ่งขึ้นมาเป็นดาวเด่นในทีมได้ หลังถูกค่อนขอดตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาว่าดีแต่ ‘ซื้อ’ ไม่เคย ‘สร้าง’
โฟเดนได้โอกาสบ้าง แต่โอกาสนั้นมาอย่างจำกัดจำเขี่ย
ประตูในเกมสำคัญที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านด่านท็อตแนม ฮอตสเปอร์ได้ในฤดูกาลที่แล้วไม่ได้ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นขาประจำของทีม ขณะที่ในฤดูกาลนี้ดูเหมือนชื่อของเขาจะค่อยๆ หายไปจากความสนใจของผู้คน
พรีเมียร์ลีกหันไปตื่นเต้นกับตัวทำเกมที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อย่าง แจ็ค กรีลิช ‘หมายเลข 10’ ของแอสตันวิลลา, ท็อดด์ แคนต์เวลล์ กองกลางจอมพลิ้วของนอริช ซิตี้ หรือแม้แต่ เคอร์ติส โจนส์ ลิเวอร์พัดเลียนที่ถูกจับตามองว่าจะเตรียมขึ้นมาแจ้งเกิดในทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในฤดูกาลหน้า
ไม่นับ จาดอน ซานโช ที่กำลังก้าวไปสู่การเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสที่ทุกสโมสรใหญ่ในโลกต่างต้องการตัว และคาดว่าค่าตัวในการย้ายทีมของเขาจะกลายเป็นสถิติอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ส่วนโฟเดน เมื่อถูกถามถึง เป๊ปจะมีคำตอบเหมือนเดิมแทบทุกครั้งว่า “ขอให้อดทน”
แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าแล้วเขาต้องทนไปถึงเมื่อไร
อย่างไรก็ดี ในนัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์เมื่อคืนนี้ ในขณะที่คนจับตามองว่ากรีลิชจะสร้างความมหัศจรรย์ในสนามช่วยให้วิลลาสามารถล้มซิตี้ได้หรือไม่ กลับเป็นโฟเดนที่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงที่พิสูจน์พรสวรรค์ของตัวเองให้ทุกคนได้เห็น
โฟเดนเป็นผู้ที่วิ่งสอดขึ้นไปในกรอบเขตโทษหลังโรดรี้ วางบอลทแยงมุมจากแนวลึกเข้าไปก่อนโหม่งย้อนกลับมาให้ เซร์คิโอ อเกวโร ตวัดยิงประตูขึ้นนำให้ซิตี้ในนาทีที่ 20 และนอกจากนั้นเขายังเล่นได้อย่างน่าประทับใจตลอดทั้งเกม
คนเดียวที่ไม่ประทับใจเขาคือ แมตต์ ทาร์เก็ตต์ แบ็กซ้ายวิลลาที่เจอฝันร้ายตลอดทั้งเกม
ฟิล โฟเดน (ชุดดำ) โชว์ลีลาพลิ้วไหวตลอดทั้งเกม
ขณะที่แฟนบอลจำนวนมากอาจประหลาดใจกับภาพของเด็กหนุ่มวัย 19 ที่เคยผอมบาง วันนี้ดูโตขึ้น แกร่งขึ้น และมีร่างกายในแบบของนักกีฬามากขึ้น ซึ่งนั่นมีส่วนช่วยให้ความเป็นนักฟุตบอลของเขาที่มีเต็มเปี่ยมในตัวยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
สิ่งที่เขาทำได้ดีอยู่แล้วก็ยังอยู่ โดยเฉพาะการผ่านบอลในระยะกลางไปถึงระยะไกลที่แม่นยำและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นการผ่านบอลในแบบของนักเตะที่มีพรสวรรค์ ที่สามารถคอนโทรลน้ำหนักของบอลได้ด้วยความรู้สึก
สุดท้ายนอกจากจะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ โฟเดนยังได้รางวัลพิเศษเพิ่มอีกอย่างคือรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมนี้ด้วย
หนึ่งในคนที่ชื่นใจที่สุดคือ เป๊ป คนที่บอกให้เขาอดทนมาตลอด ซึ่งความจริงแล้วกุนซืออัจฉริยะอย่างเขาเองก็ต้องอดทนเช่นกันที่จะประคบประหงมโฟเดน และใช้เวลาเพื่อเจียระไนเพชรเม็ดงามนี้ให้เปล่งประกายออกมาสวยงามที่สุด และรอเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำออกมาแสดงต่อชาวโลก ซึ่งไม่มีเวลาใดจะเหมาะสมไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว เมื่อ ดาบิด ซิลบา เจ้าของตำแหน่งที่โฟเดนปรารถนากำลังจะโบกมือลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้
“มันเป็นความจริง และถือว่าเขาโชคร้ายที่เขาต้องสู้กับหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก (ดาบิด ซิลบา) แต่ในการซ้อมเขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก และเขาก็พร้อมอยู่แล้ว” เป๊ปกล่าวถึงโฟเดน
“เราสามารถพึ่งเขาได้ไม่ว่าจะให้เล่นริมเส้นหรือด้านใน และวิธีการเล่นของเขาในตอนนี้ถือว่าเขาพร้อมจะสู้กับทุกคนแล้ว สื่อยกให้เขาเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมนี้ ซึ่งผมต้องขอแสดงความยินดีกับเขาด้วย เขาเล่นริมเส้นได้ เขามีความเร็วในการเล่นเกมสวนกลับและฉลาดมากในการเล่นพื้นที่แคบๆ เขายังมีการจบสกอร์ที่ดีอย่างเหลือเชื่อด้วย
“เขามักจะยิงได้เสมอในการซ้อม ตอนนี้เขาอายุ 19 และทุกเกมที่เขาลงเล่นมันคือประสบการณ์ใหม่ที่เขาจะได้เรียนรู้ทั้งตัวและหัวใจ เขาสามารถจะลงสนามได้โดยไม่มีปัญหาเลย ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าเขาจะทำได้ไหม และมันก็เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบที่ผมให้เขาเล่นในวันนี้”
ขณะที่โฟเดนกล่าวถึงคืนที่มหัศจรรย์ของตัวเองว่า “ผมแทบรอที่จะลงสนามไม่ไหว มันเป็นวันที่น่าเหลือเชื่อมาก
“เมื่อได้โอกาสลงสนาม ทุกนาทีมีความหมายเสมอ ดังนั้นผมจึงพยายามจะทำให้ดีที่สุดและผมก็ภูมิใจกับผลงานของตัวเองมากในวันนี้”
ในเกมที่เวมบลีย์ มีภาพหนึ่งที่สะดุดหัวใจชาวซิติเซนส์ หรือแม้แต่แฟนบอลทั่วไป
ภาพนั้นคือภาพที่ ดาบิด ซิลบา ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและปรบมือขอบคุณทุกคน โดยเป็น แบร์นาโด ซิลวา ที่ได้ลงสนามมาแทน
แต่โฟเดนยังอยู่ในสนามจนจบเกม และเขาจะอยู่กับซิตี้ไปอีกนานแน่นอน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
- โฟเดนเลือกเสื้อหมายเลข 47 เพื่อยกย่องคุณปู่รอนนีที่จากไปในวัย 47 ปี และแน่นอนว่าปู่ของเขาคือแฟนซิตี้ตัวจริง
- ก่อนนัดชิงในฤดูกาลนี้ โฟเดนลงเล่นมาแล้ว 24 นัด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรอง โดยมีโอกาสลงตัวจริงแค่ 9 นัด
- แต่ถ้ามองผลงานอย่างลงลึก โฟเดนทำได้ไม่เลวทีเดียว โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้เขาทำไป 3 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ และหากนับทั้งหมดกับซิตี้ เขาลงเล่น 61 นัด (ตัวจริง 24 นัด) ยิง และแอสซิสต์อีก 10