วานนี้ (18 มีนาคม) พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ชลบุรี คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สนธยา คุณปลื้ม ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ชลบุรี พรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย พานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย, พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย และ ขัตติยา สวัสดิผล คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย
รวมทั้งผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ สุภีพันธุ์ หอมหวล, ฉัตรชัย อั้งลิ้ม, มานิตย์ ภาวสุทธิ์, สรวุฒิ เนื่องจำนงค์, อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์, สุกุมล คุณปลื้ม, สงกรานต์ ภาชนะ, เชาวลิตร แสงอุทัย, แมน อินทร์พิทักษ์ และ พนธกร ใคร่ครวญ โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจรับฟังการปราศรัยแน่นขนัดเต็มพื้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรีกว่าหมื่นคน
นพ.ชลน่านกล่าวว่า อุตสาหกรรมและอาชีพประมงของพี่น้องชลบุรีและพี่น้องภาคตะวันออกต้องตกต่ำถดถอย เพราะรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เซ็นยอมรับข้อตกลงการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) ในปี 2558 บีบบังคับพี่น้องประมงต้องจอดเรือ ขายเรือ ไม่สามารถทำการประมงได้เหมือนเดิม โดยไม่ฟังคำทักท้วงของพี่น้องประมง ไม่ฟังผู้มีส่วนได้เสีย จนสร้างความเสียหายหลายหมื่นล้านบาทต่อพี่น้องประมงทั้งจังหวัดชลบุรี รวมถึงชาวประมงทั่วประเทศทั้งในชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทย หากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลจะแก้เรื่องกฎหมายประมงและพูดคุยข้อบังคับ IUU ทันที เพื่อฟื้นคืนเศรษฐกิจประมงให้กลับคืนมาเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง
“ถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาจะรื้อกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ แก้ไขหลักเกณฑ์ให้บังคับใช้อย่างเหมาะสม ยุติธรรม และหากอุปสรรคถูกทำลายและการส่งเสริมถูกต้องเหมาะสม เชื่อว่าประเทศไทยจะกลับมาทวงตำแหน่งประมงลำดับต้นๆ ของโลก สร้างรายได้ให้ชาวประมงอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง” นพ.ชลน่านกล่าว
ด้านแพทองธารกล่าวว่า แม้อายุครรภ์จะใกล้ครบ 8 เดือนแล้ว แต่ยังพร้อมเดินทางมาพบปะกับพี่น้องชาวชลบุรี โดยแพทองธารกล่าวถึงความประทับใจต่อพี่น้องชาวชลบุรีว่า เมื่อปี 2549 เคยมีโอกาสมาฟังคุณพ่อปราศรัยที่ชลบุรี แม้วันนั้นฝนจะตกหนักแต่พี่น้องประชาชนก็ยังคงตั้งใจฟังไม่ทิ้งกันไปไหน คอยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเสมอมา ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมาพร้อมกับนโยบายที่จะช่วยคืนความเป็นอยู่ที่ดีให้พี่น้องชาวชลบุรี เริ่มจากนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่จะเติมเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องได้เร็วที่สุด พรรคเพื่อไทยจะยกระดับสนามบิน ให้มีไฟลต์บินเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้มากขึ้น การท่องเที่ยวขยายตัวก็จะเกิดอาชีพใหม่ เป็นแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น แต่หากครอบครัวไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน รัฐบาลเพื่อไทยจะสำรวจและเติมเงินให้ถึง 20,000 บาทเอง
รวมถึงต้องมีการทำให้เทศกาลสำคัญของไทยที่นอกเหนือจากเทศกาลสงกรานต์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยได้ทั้งปี และปักให้ชลบุรีเป็นหมุดหมายที่จะจัดงานเทศกาลระดับโลก พร้อมทั้งยังระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการบริการเป็นศูนย์กลางการพักผ่อน เพราะประเทศไทยมีงานด้านบริการที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
“เพื่อไทยมาแล้ว การท่องเที่ยวภายในปี 2570 พี่น้องต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าแน่นอน ใกล้วันยุบสภา ใกล้การเลือกตั้งเข้ามาเต็มที ขอให้พี่น้องเลือกพรรคการเมืองที่จะเข้ามาช่วยปลดหนี้ปลดสิน รวยวันรวยคืน ขอให้พี่น้องเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค ให้แลนสไลด์ทั่วชลบุรี” แพทองธารกล่าว
ด้านเศรษฐากล่าวว่า วันนี้อาสาเข้ามาทำการเมืองอาสาเข้ามาช่วยพลิกวิกฤตความยากจน และพยายามทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่งคั่ง คืนอิสระเสรีภาพให้กับประชาชนทุกคน ไม่ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนกลุ่มเดียว แม้มีคำถามมากมายว่าตนเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมือง ยืนยันว่าเป็นชายที่ยึดอำนาจของประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาความสุข ความร่ำรวยของประชาชนเป็นแนวปฏิบัติการในการทำงาน พร้อมย้ำแนวทางการทำงานที่ยึดเอาความเท่าเทียม คืนสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค การเลือกเพศสภาพ กลับมาอีกครั้งหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
พรรคเพื่อไทยตระหนักถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ถดถอยลง รายได้ลดลง รายจ่ายสูงขึ้น หนี้สินสูงขึ้น โควิดจบไปแล้วแต่เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ รัฐบาลไม่ได้เตรียมตัวในการนำเครื่องบินมาใช้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบินเข้ามาได้ ทำให้การท่องเที่ยวเป็นสุญญากาศ จึงได้มีนโยบายเพิ่มรายได้ประชาชนทุกกลุ่ม ภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค และ 2 นโยบายใหม่ที่ตนได้ประกาศวานนี้ ในการสำรวจครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะมีการเติมให้ รวมถึงนโยบายที่ล้ำเหนือกว่าคู่แข่ง คือการนำเอาดิจิทัลวอลเล็ตมาใช้ คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจะใส่เงินจำนวนหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับคืนมา
เศรษฐากล่าวอีกว่า เรื่องสุดท้ายที่อยู่ในหัวใจมาโดยตลอด วันนี้ตนอายุ 61 ปี มาจังหวัดชลบุรีตั้งแต่เด็ก เห็นถึงความเจริญเติบโต เมืองพัฒนา หลายคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองนี้ รวมถึง ‘ครอบครัวคุณปลื้ม’ ที่มีความกตัญญูต่อพี่น้องประชาชน ทำประโยชน์ให้กับจังหวัดชลบุรีอย่างมหาศาล
“ชลบุรีมี ส.ส. 10 คน ถ้าเลือก 10 คนเข้ามา ไม่ใช่คุณปลื้มอย่างเดียว ผมก็ปลื้ม ประชาชนก็ปลื้ม ถ้าอยากให้พรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศ นำพวกท่านไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ขั้นแรกต้องเลือกเพื่อไทยยกจังหวัดชลบุรีทั้ง 10 คนเพื่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” เศรษฐากล่าวทิ้งท้าย
ด้านสนธยากล่าวว่า การตัดสินใจกลับมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย หลังจากในปี 2548 ได้ร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ทำให้แลนด์สไลด์ 377 เสียงทั่วประเทศมาแล้ว ครั้งนี้ได้คัดเลือกอดีตผู้บริหารและทีมงานลงพื้นที่ 10 คน 10 เขต ให้คนชลบุรีได้กาอย่างไม่ต้องสงสัยแคลงใจ คือทีมงานที่มีแต่ความจริงใจให้กับทุกๆ คน ตั้งแต่วันแรกที่เป็น ส.ส. เมื่อปี 2535 กับ วิทยา คุณปลื้ม เราใช้คำว่าจริงใจพัฒนา ทุกวันนี้เราใช้คำว่า พูดจริง ทำจริง ทำได้จริง เห็นผลงานจริง คำว่า ‘จริง’ มีความหมายกับทุกคน
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากดูพรรค ผู้นำพรรค นโยบายพรรค ตัวผู้สมัคร ผลงานต่างๆ แล้ว ให้ดูถึงผู้นำทีมที่มีความจริงใจที่จะเสนอตัวเข้ามาด้วย เพื่อการเปลี่ยนแปลง นำพวกเราไปจุดหมายที่มีแสงสว่างของชลบุรีทั้ง 10 เขต คนชลบุรีมีจิตวิญญาณในความฝัน มาร่วมกันเลือกให้ล้นหลาม เหมือนกระบอกข้าวหลาม เอากระจาดกระบอกข้าวหลามมาโกยคะแนน เอาไปใส่กระบุงให้ล้นกระบุง ต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 10 เขต ให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดชลบุรี
ส่วนอดิศรกล่าวว่า เชื่อว่าปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ทั้งชลบุรีจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ครอบครัวคุณปลื้มกลับมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย เคยได้ ส.ส. ชลบุรีแบบแลนด์สไลด์ยกจังหวัด สมัยพรรคไทยรักไทยปี 2548 พร้อมเล่าย้อนเหตุการณ์ปราศรัยหาเสียงที่ชลบุรีในปี 2548 โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร แม้ฝนตกแต่คนก็ไม่เคยถอย ในวันนั้นเรามาพร้อม ดร.ทักษิณ วันนี้เรามากับลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร คนรุ่นใหม่ ที่มีทั้งแรงกาย แรงสมอง และความคิดสร้างสรรค์ที่อาสาตัวเองเข้ามาทำงานการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชน รวมถึงคนหนุ่มใหญ่ไฟแรง คนสูงเด่น แต่อ่อนน้อมถ่อมตน ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยยังหนุ่มยังสาว ทั้งเก่งทั้งฉลาดทั้งด้านเศรษฐกิจและความคิดสร้างสรรค์ ขอให้พี่น้องชลบุรีเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัด เพื่อให้เศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคนทั้งพรรคแล้วเราจะชนะไปด้วยกันทั้งประเทศ
ด้านณัฐวุฒิกล่าวว่า แพทองธารตั้งครรภ์ 8 เดือน แต่ พล.อ. ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี แพทองธารมีแต่คนตั้งตารออยากเห็นวันที่เด็กคลอด แต่ พล.อ. ประยุทธ์ คนตั้งตารออยากให้ออกไป พรรคเพื่อไทยมีทีมผู้สมัครคุณภาพ 400 คน 400 เขต ที่เพิ่งเปิดตัวไป ของชลบุรี นำโดย สนธยา คุณปลื้ม หากอยากมีชีวิตที่ดี ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยไปทำงาน แก้ปัญหาให้กับประชาชน เมืองไทย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มาแต่โบราณ แต่วันนี้ข้าวไม่มีราคา ไม่มีเรือประมงออกหาปลา ถ้าเพื่อไทยกลับมา จะคืนเรือประมงสู่ท้องทะเลไทย เรือดำน้ำไม่เอา
ทั้งนี้ นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ฉีดวิตามินเข้าไปที่ฐานรากของประเทศ ให้คนหายจน มีเงินจับจ่าย ปรัชญาการรดน้ำที่รากคือแนวทางการแก้ปัญหาของเพื่อไทย ให้คนข้างล่างแข็งแรง หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะเติบโตตามๆ กันไป ถ้าเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไป ทุกนโยบายที่ประกาศไว้ เราทำได้จริง ดังนั้นคนชลบุรีรอแค่วันเลือกตั้ง ออกไปกาพรรคเพื่อไทย 10 คน 10 เขต แลนด์สไลด์ทั้งชลบุรี
“สนามชลบุรีแห่งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เคยยืนตากฝนปราศรัย มี สนธยา คุณปลื้ม มี พานทองแท้ ชินวัตร มี อดิศร เพียงเกษ มี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผ่านไปกี่ปี ยังเคารพนับถือท่านเสมอ คนเคยมีใครอุ้มชู ต้องไม่ลืม เชื่อว่าวิถีความเป็นคนและวิถีคนชลบุรีก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น หัวใจคนชลบุรีต้องโอบอุ้มลูกหลานเมืองชลฯ ขอกำลังใจให้ สนธยา คุณปลื้ม และทุกคนบนเวที ให้รับรู้ว่าคนเมืองชลฯ จะไม่ทิ้งกัน และจะสั่งสอนคนอกตัญญูให้รู้คุณคน เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัด” ณัฐวุฒิกล่าว
