×

8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง ส.ส.-ส.ว. ให้ได้ 375 เสียง เผยแผน 3 เตรียมสละบางพรรค ยันส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว รู้พร้อมกัน 26 ก.ค.

โดย THE STANDARD TEAM
21.07.2023
  • LOADING...

วันนี้ (21 กรกฎาคม) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย แกนนำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แถลงผลการหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ทวี สอดส่อง เลขาธิการ พรรคประชาชาติ, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม, สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่

 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังจากพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แถลงการณ์และส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 ซึ่งคือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราได้ปรึกษาหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย และในที่ประชุมมีมติดังนี้ ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 27 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ประธานรัฐสภาได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ โดยพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกเรามา ส่วนวิธีการที่จะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุน ที่ประชุมได้เสนอแนวทาง ดังต่อไปนี้ 

 

  1. 8 พรรคร่วม ซึ่งประกอบด้วย 312 เสียง จะดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาให้ได้ครบจำนวนที่ต้องเติมให้ถึง 375 เสียง หรือคืออีก 63 เสียง โดยอาจจะมีเงื่อนไขที่ ส.ว. ได้ตั้งไว้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องไปพูดคุย ในกรณีที่ ส.ว. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดเงื่อนไขในมาตรา 112 ทางพรรคเพื่อไทยจะรับฟัง แล้วนำมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกลและในที่ประชุม 8 พรรคร่วมต่อไป

 

  1. กรณีที่ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้เพียงพอจะให้สิทธิพรรคเพื่อไทยดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยนั้น ที่ประชุมให้เป็นเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ

 

  1. แนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ 

 

นพ.ชลน่านกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือแนวทางที่เราจะได้มาซึ่งการจัดตั้งรัฐบาล 375 เสียง ในการประชุมวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดานมาตรา 112 นพ.ชลน่านกล่าวว่า ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่าพรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทยไปหารือกับสมาชิกวุฒิสภาแต่ละท่าน เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา

 

ขณะที่ชัยธวัชกล่าวเสริมถึงการลดเพดานมาตรา 112 ว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ ต้องให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยว่ารูปแบบของการปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังปลดล็อกแล้วจะเป็นอย่างไร เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำไปพิจารณา โดยยืนยันว่ามาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายสูงสุดคือเราอยากเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลตามที่ประชาชนลงคะแนนเสียงมา ตอนนี้โดยมารยาทต้องมอบหมายบทบาทหลักให้ทางพรรคเพื่อไทยในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ เรื่องการลดเพดานมาตรา 112 เป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยในการดำเนินการ โดยมารยาทพรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อไปแล้ว ต้องรอรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยอีกที

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศว่าจะไม่ร่วมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในแนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากที่ประชุมของ 8 พรรคร่วม ซึ่งมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร

 

นพ.ชลน่านกล่าวยอมรับว่า ให้ความสำคัญหลักอยู่ที่เสียงของ ส.ว. มากกว่า ส.ส. และยังดำเนินตามทางเลือกที่ 1 คือมีเพียง 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่นๆ มาเพิ่มเติม พร้อมหาคะแนนเสียงจาก ส.ว. ควบคู่กันไป และหากมีพรรคการเมืองใดให้ความเห็นชอบแคนดิเดตของ 8 พรรคร่วมโดยไม่ขอร่วมรัฐบาล จะถือเป็นมิติใหม่ของพรรคการเมือง ทั้งนี้ยังอยู่ที่การพูดคุย 

 

ส่วนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น จะทราบภายในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยจะเสนอเพียงชื่อเดียวเท่านั้น แต่ต้องมีกระบวนการสร้างความมั่นใจก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภาว่า แคนดิเดตคนดังกล่าวต้องได้เสียงสนับสนุนเกิน 375 ขึ้นไป ขณะที่ทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับสิทธิจากที่ประชุมร่วมให้ไปดำเนินการและนำกลับมาปรึกษาหารือ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจัยที่จะทำให้ไปสู่ทางเลือกที่ 3 คืออะไร นพ.ชลน่านตอบว่า ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ 1 และ 2 ไม่สำเร็จ กรอบเวลาช้าสุดคือภายในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไข ‘มีเราไม่มีลุง’ ของบางพรรคการเมืองนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราพยายามทำแนวทางที่ 1-2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน เรื่องอื่นเรายังไม่พูดถึง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีอาจมีการยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องที่ประชุมรัฐสภาวินิจฉัยข้อบังคับที่ 41 ซึ่งอาจทำให้มีการเสนอชื่อพิธารอบ 2 ได้นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า คงต้องไปดูรายละเอียด เพราะอยู่คนละจังหวะเวลากัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแกนนำจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย MOU มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้เรายึดแนวทางนั้น แต่เมื่อดำเนินการแล้ว อะไรที่ต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน บางเรื่องที่เขียนไม่ตรงก็ต้องปรับแก้ 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X