วานนี้ (28 มีนาคม) พรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัย ‘ปักธง คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อคนสมุทรปราการ’ ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค รวมทั้ง สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
นพ.ชลน่านกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกให้เด็ดขาด พรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่มีเลือกพ่วง วันนี้มี 2 ฝ่ายเท่านั้นคือ พรรคเพื่อไทย กับพรรค พล.อ. ประยุทธ์ และพรรค พล.อ. ประวิตร ทั้ง 2 คนนี้พูดเหมือนกันว่า “เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง” แต่ความขัดแย้งทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่ใช่ 3 ป. ทั้งนี้ในปี 2553 พี่น้องเราถูกฆ่าถูกยิงกลางถนนตั้งแต่ปี 2553 การชำระแค้นคือกากบาทเอา 3 ป. ออกไปจากกระดานการเมืองไทย หลายนโยบายที่รัฐบาลสามารถทำได้ตั้งแต่ขณะที่ยังเป็นรัฐบาล แต่เหตุใดเพิ่งทำตอนนี้ เช่น ขึ้นค่าตอบแทน อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อตนทักท้วงกลับถูกบิดเบือนว่าขัดขวาง พี่น้องประชาชนได้ขึ้นค่าตอบแทน พรรคเพื่อไทยยินดีด้วย และหากเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะจัดหางบประมาณมาจ่ายค่าตอบแทนให้พี่น้องประชาชนในปีงบประมาณที่จะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมนี้
ด้านสุทินกล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ทุกคนมีค่าแรง มีเงินจาก Digital Wallet พรรคเพื่อไทยจะจัดระเบียบพี่น้องแรงงานด้วยการสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ทั่วทุก 4 ภูมิภาค ซึ่งจะทำให้พี่น้องอีสานหรือภูมิภาคอื่นๆ ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานมาที่ส่วนกลาง ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ปิดตำนานพี่น้องต้องมาขายแรงงานในกรุงเทพฯ
เมื่อเขตเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั่วทุกภูมิภาค ที่จังหวัดสมุทรปราการ-ฉะเชิงเทราจะปรับโฉมใหม่ให้สมุทรปราการเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหม่เป็นแบบทันสมัย โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเข้ามา คือลงทุนน้อย ได้เงินมาก เฉกเช่นเดียวกับญี่ปุ่น
“การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ก้าวข้ามคนเก่า ไปอยู่กับคนใหม่หัวใจเดิมคือเพื่อไทยเท่านั้น เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ พวกเก่าเสร็จเรา ถ้าเลือกใบเดียวเราเสร็จพวกเก่า” สุทินกล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่แพทองธารกล่าวว่า ในสมัยคุณพ่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เคยเดินทางมาคุมไซต์ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจนแล้วเสร็จ ส่งผลให้เศรษฐกิจในจังหวัดสมุทรปราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงสมัยรัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การบริหารของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมุทรปราการเป็น 1 ใน 7 จังหวัดแรกที่ได้ขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาทต่อวัน เลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทต่อวันเช่นกัน หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลค่าแรงจะปรับขึ้นทันทีไม่เกินต้นปีหน้า พร้อมย้ำนโยบาย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ จากพรรคเพื่อไทยอีกมากมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นทั้งระบบ มีนโยบายในระยะสั้น เช่น เติมเงินให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท, Digital Wallet เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชน
“ในวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะมาถึง ดิฉันมั่นใจว่าจะคลอดน้องแล้ว มั่นใจว่าจะไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งแน่นอน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กาเพื่อไทยทั้งสองใบให้แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ ขอแลนด์สไลด์ที่สมุทรปราการอีกครั้ง” แพทองธารกล่าว
ปิดท้ายด้วยณัฐวุฒิกล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล พี่น้องชาวประมงสมุทรปราการและทั่วประเทศจะกลับคืนสู่ความเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง หลังจากที่อาชีพชาวประมงไทยถูกกดขี่ ไม่สามารถออกหาปลาได้จากกฎ IUU Fishing พรรคเพื่อไทยเห็นปัญหาของพี่น้องประมง เราจะแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ฟื้นฟูชีวิตและอาชีพของพี่น้องประมงกลับมาให้ได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาสมัยรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร่วมประชุมที่ประเทศอินเดียในการหารือทวิภาคีไทย-บังกลาเทศ ผู้นำบังกลาเทศขอเรียนรู้วิทยาการองค์ความรู้ด้านการประมงของไทยที่พัฒนาก้าวหน้ากว่าของประเทศเขามาก แสดงให้เห็นว่าชาวประมงไทยมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี มีความสามารถในวิชาชีพจนได้รับความเชื่อมั่นจากนานาชาติ
“แต่ก่อนร่อนชะไรเรือประมงไทยได้ออกหาปลากันในทะเล แต่เดี๋ยวนี้ชาวประมงไทยออกหาปลากระป๋องในร้านชำ นี่คือความจริง หากพี่น้องประมงช่วยกันเลือกเพื่อไทยให้กลับมา เราจะพาเรือประมงไทยได้ลงน้ำหาปลา ประมงไทยจะคืนความเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ไม่ต้องเลือกใคร เลือกเพื่อไทยให้สมุทรปราการแลนด์สไลด์ได้ ส.ส. 8 คนของเพื่อไทย” ณัฐวุฒิกล่าว