ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ของพรรคครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง นำโดยพลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ตลอดจนกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนประจำสาขาพรรค และสมาชิกพรรครวมจำนวน 289 คนร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
โดยพลตำรวจโท วิโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมไปตามกฎหมายพรรคการเมืองที่กำหนดให้พรรคการเมืองมีการประชุมหลังจากมีการเลือกตั้งเพื่อรับรองกิจกรรมของพรรรค ส่วนระเบียบวาระที่จะแจ้งต่อที่ประชุมเพื่อทราบนั้น เนื่องจากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา แม้จะผ่านไปด้วยความเรียบร้อยแต่ไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะมีการใช้อำนาจเงิน และอำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง แต่ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ที่พรรรคเพื่อไทยมีว่าที่ ส.ส. มากที่สุดเป็นอันดับ 1
หลังจากการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมในวันนี้ว่า วันนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองก่อนมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรค ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มีการสรุปสถานการณ์ร่วมกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่งที่ประชาชนไว้วางใจ และมีว่าที่ ส.ส. มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยสมาชิกทุกคนยืนยันว่าจะรักษาความไว้วางใจของประชาชนที่ได้ให้ไว้ และปฏิบัติงานให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจ พร้อมย้ำว่าเราต้องรักษาประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่พรรคการเมืองได้เสียงตามเจตนารมณ์ของประชาชน ควรจะเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจัดตั้งรัฐบาลในการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณากันต่อไป
แต่ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีความพยายามที่จะใช้สถานการณ์และโอกาสในขณะนี้พยายามสร้างความพร้อมเรียกร้องว่าพรรคของตนนั้นมีความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ฝ่าฝืนและฝืนความรู้สึกและประเพณีการปกครองที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะประเทศไทยไม่เคยมีพรรคที่ได้จำนวน ส.ส. เป็นอันดับ 2 มาแย่งชิง และประกาศตนจัดตั้งรัฐบาล แม้จะอ้างเรื่องคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมา แต่ก็เป็นการหยิบยกเหตุผลมาอ้างอย่างเลื่อนลอยจากพื้นฐานรองรับในระบอบประชาธิปไตย และประเพณีการปกครองที่มีขึ้น
อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองจนถึงปัจจุบันสะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความไม่ปกติของระบอบการเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหารัฐธรรมนูญและกฎกติกาการเลือกตั้งที่ถูกออกแบบมาให้การเมืองไทย และการได้มาซึ่งรัฐบาลกลายเป็นปัญหาที่จะนำไปสู่ความไม่มีเสถียรภาพของระบบการเมืองไทย อาจกลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ และส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล
ดังนั้นจึงได้ข้อสรุปกันว่าพรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนในการเดินต่อไปข้างหน้า ยืนยันในจุดยืนอุดมการณ์ของพรรคอย่างเข้มแข็งไม่เปลี่ยนแปลง และกำหนดพันธกิจร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมดำเนินงานทันทีหลังกระบวนการเลือกตั้งจบลง พร้อมทั้งประกาศชัดเจนพรรคเพื่อไทยพร้อมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่หากพรรคไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้บนพื้นฐานที่มีกลไกเป็นอุปสรรค ก็จะทำหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน พร้อมยืนยันจะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาทั้งฉบับ
นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ้ายค้าน โดยปรากฏชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ ส.ส. เชียงใหม่พรรคเพื่อไทยนั้นยืนยันว่า พรรคยังไม่มีความคิดในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด พรรคเพื่อไทยยืนยันว่ามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล แต่กระบวนการขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และ 250 ส.ว. ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลควรจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมทำหน้าที่ทุกสถานการณ์ ทั้งนี้มั่นใจว่า 7 พรรคการเมืองที่ร่วมกันลงสัตยาบันในระดับผู้นำพรรค และกรรมการบริหารพรรคยังจับมือกันแน่น หากมีฝ่ายใดฝืนแย่งชิงอำนาจด้วยวิธีการนอกระบบด้วยการซื้องูเห่า งูเขียว งูจงอาง ก็จะเป็นวิธีการไม่สง่างาม และจะมีผลต่อการตัดสินใจในวันข้างหน้า
นายภูมิธรรมกล่าวถึงกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่าส่วนตัวเชื่อว่า ประชาธิปไตยมีทางออกเสมอ วันนี้ต้องให้กระบวนการประชาธิปไตยได้ทำงาน เพราะการเสนอรัฐบาลแห่งชาติขณะนี้เป็นวิธีการที่ยังไม่เหมาะสมหรือสมบูรณ์เพียงพอ เชื่อว่ากลไกระบบปกติทำงานได้ หากผู้มีอำนาจปล่อยวาง และไม่ใช้ความทะยานอยากในการได้มาซึ่งอำนาจ
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ส่ง วิธีคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ส่วนตัวไม่สามารถตอบแทนศาลได้ว่าจะรับคำร้องหรือไม่ แต่หากศาลพิจารณาด้วยความเที่ยงตรงปัญหาของประเทศก็จะได้รับการคลี่คลาย แต่เห็นว่าปัจจุบันแม้แต่คะแนนของการเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการยังไม่ประกาศให้รับทราบ นั่นแสดงให้เห็นว่า กกต. ไม่กล้าหาญที่จะเผชิญกับความเป็นจริง เพราะปัจจุบันไม่มีกระบวนการใดเลยที่จะไปขัดขวางการประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต. สิ่งเหล่านี้จึงแสดงให้เห็นว่าเป็นความบกพร่องในการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ชุดนี้
แต่อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวได้ก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ กกต. จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ และหากยังคงดึงดันใช้วิธีของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญอยู่ ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้ทำหนังสือทักท้วงไปแล้ว ว่าการพิจารณานั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ และหาก กกต. ยังใช้วิธีการดำเนินการดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจะฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
สำหรับบรรยากาศของการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยวันนี้ นอกจากจะมีการประชุมตามระเบียบวาระแล้ว ยังมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรคตามประเพณีวันสงกรานต์กันอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเอง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์