คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และพาดพิงถึง ส.ส. พรรคเพื่อไทยหายไปไหนว่า หน้าที่และจิตสำนึกของ ส.ส. พรรคเพื่อไทยตั้งแต่น้ำเริ่มท่วม ทุกคนอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่แค่จังหวัดอุบลราชธานี แต่ทุกจังหวัดที่มีน้ำท่วม ส.ส. ทำงานหนัก อยู่กับประชาชนยามที่มีทุกข์ หน้าที่มาต้อนรับนายกรัฐมนตรีจึงไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส. หรือแม้แต่การเอาอกเอาใจ ซึ่งหน้าที่ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยมีเพียงการไปดูแลทุกข์สุขและเอาอกเอาใจประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พลเอก ประยุทธ์ จะไม่เจอ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย
พร้อมย้ำด้วยว่าตลอดช่วงเวลาที่เกิดน้ำท่วม พรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดถึงนายกรัฐมนตรี แต่มุ่งมั่นที่จะทำงานและประสานงานผ่านสภาผู้แทนราษฎร แต่หากนายกรัฐมนตรีอยากทำงานให้กับประชาชน ควรนำความเดือดร้อนของประชาชนที่สะท้อนไปแก้ไข
ตนเองและ ส.ส. พรรคเพื่อไทยทุกคนจึงไม่ถือสานายกรัฐมนตรี ถ้าอยากทราบว่าทำไมไม่มาต้อนรับ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือเอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น และไม่เคยคิดจะมาแย่งกันเอาหน้า
ส่วนมาตรการเยียวยาที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องมาตลอดตั้งแต่สถานการณ์ภัยแล้งจนมาถึงน้ำท่วมคืออยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องเงินชดเชยให้เกษตรกร จากไร่ละ 1,112 บาท ปรับขึ้นเป็นไร่ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท แล้วเร่งจ่ายให้ทันภายในสิ้นเดือนนี้
ส่วนเงินที่รับบริจาคไปเป็นเพียงเงินส่วนน้อย เพราะมีงบกลางและงบฉุกเฉิน ซึ่งระเบียบได้ผ่อนปรนเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แต่วันนี้ยังไม่เห็นการใช้งบนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าไม่ขอประเมินแผนการช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะหากเป็นตนเองอย่างที่เคยทำมาสมัยเป็นรัฐบาลตั้งแต่ไทยรักไทย เมื่อเจอสถานการณ์อุทกภัยหลายครั้ง รวมถึงการเกิดสึนามิ ได้บริหารจัดการและส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนโดยทันที โดยเฉพาะการจัดศูนย์พักพิงที่ต้องมีประสิทธิภาพในแง่ของสุขอนามัย แต่สิ่งที่พบปัจจุบันคือประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง จึงอยากให้รัฐบาลนำสิ่งเหล่านี้ไปเป็นบทเรียน ปรับปรุงการรับมือหากมีสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะที่ เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เห็นว่าคำสั่งย้ายศูนย์พักพิงของประชาชนให้ไปอยู่ในค่ายมณฑลทหารบกที่ 22 อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเปิดเส้นทางต้อนรับพลเอก ประยุทธ์ ว่าก่อนมีคำสั่งมีประชาชนในชุมชนมาปรึกษาเรื่องการย้ายจุดพักพิง เพราะเดือนนี้ต้องย้ายถึง 5 ครั้ง
และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมา ได้สั่งให้ย้ายที่พักพิงบริเวณสะพานให้ชาวบ้านไปอยู่ยังศูนย์พักพิงในค่ายทหาร ซึ่งอ้างว่าหากย้ายไปอยู่ในมณฑลทหารบกที่ 22 จะได้รับงบและอาหาร
ซึ่งคำสั่งทั้งหมดได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมตำหนิส่วนราชการของจังหวัดที่ไม่ประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ถ้ารัฐบาลทำงานเป็น จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงอย่างที่ประสบอยู่ตอนนี้
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่แล้วพูดว่า ส.ส. ไม่ทำงาน ความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยทำงานมากว่า 20 วันแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีมา แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้ส่วนราชการและประชาชน
จากนั้นเวลา 10.30 น. แกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อม ส.ส. ทุกภาคกว่าครึ่งร้อยคนได้ร่วมกันลำเลียงของบริจาคและปล่อยคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเริ่มจุดแรกที่สะพานกุดปลาขาว อำเภอวารินชำราบ ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์