วันนี้ (14 มีนาคม) สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรับมือการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลว่า
- ‘การกำจัดการแพร่กระจายของโรคและจำกัดผลกระทบทางเศรษฐกิจถือเป็นสิ่งจำเป็น’ นอกเหนือจากมาตรการด้านสาธารณสุขแล้ว ผมมองว่า ‘ความจริง’ ด้านข้อมูลและการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ปัจจุบันประชาชนไม่เชื่อว่ารัฐบาลพูดความจริงทั้งหมดอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับการระบาดของโรค จึงนำไปสู่ความตื่นตระหนกและความหวาดกลัว จนลามไปถึงการขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะรวมไปถึงความสามารถในการเตรียมความพร้อมเพื่อจะรับมือกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะเป็นผลต่อเนื่องของการแพร่กระจายและการระบาดของโรค ซึ่งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงและบานปลายไปในวงกว้างได้ หากเราขาดการเตรียมความพร้อมในการรับมือที่ดีเพียงพอ
- ‘ความเป็นระบบ’ ในการบริหารจัดการจากกรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย คนเปิดเผยข้อมูลกลับกลายเป็นคนผิด แต่คนที่ทำผิดกลายเป็นผู้ถูก กรณีผีน้อย กรณีศูนย์กักกัน โดยมาตรการรับมือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมารายวัน สร้างความสับสน ไร้ทิศทาง เหล่านี้ทำให้สิ่งที่ควรจะควบคุมได้กลายเป็นช่องโหว่ ประชาชนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้จะสามารถรับมือในสถานการณ์วิกฤตได้
- ‘ความเด็ดขาด’ ที่ผ่านมารัฐบาลขาดความเด็ดขาดในการรับมือการระบาดของโรค จนประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลเด็ดขาดกับประชาชนที่เห็นต่าง แต่อ่อนข้อต่อเชื้อโรค โดยส่วนที่ควรจะกักตัวกลับปล่อยให้ออกมา มาตรการควบคุมโรคต่างๆ ที่ควรจะเด็ดขาดกลับไม่ทำ เพราะกลัวเศรษฐกิจพัง แต่ตนมองว่าหากไม่เด็ดขาดในตอนแรก ปล่อยให้ยืดเยื้อและระบาดหนัก ผลเสียทางเศรษฐกิจจะทวีคูณเป็นหลายเท่าตัว
ทั้งนี้ตนมองว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเปราะบางของประเทศ ทุกคนควรต้องร่วมมือกัน พรรคเพื่อไทยพร้อมประสานงานร่วมกับทุกฝ่าย รวมทั้งยินดีให้ความช่วยเหลือในทุกกรณีเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ร่วมกัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์