วันนี้ (2 สิงหาคม) ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขต จังหวัดเชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 สิ้นสุดสมาชิกภาพ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นระยะเวลา 10 ปี จากกรณีเห็นชอบงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสามโครงการนั้น
ดนุพร ระบุว่า สิ่งที่ต้องดำเนินตามกฎหมาย คือ พิเชษฐ์หลุดออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน แล้วเมื่อเขตเลือกตั้งว่างลงก็จะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ในส่วนของตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ก็จะต้องมีการสรรหาคนใหม่ เลือกกันใหม่ในสภาอีกเช่นเดียวกัน และเชื่อว่าการสรรหารองประธานสภาคนที่ 1 อาจจะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งซ่อมด้วยซ้ำไป
ส่วนตำแหน่งประธานสภาคนที่ 1 นั้นยังคงจะต้องเป็นในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ดนุพรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ในกรณีครั้งที่ผ่านมาตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 ว่างลงจากการที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ได้พูดคุยกัน และทราบมาว่าทางพรรครวมไทยสร้างชาติปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนี้ และ ส่งมาให้ทางพรรคเพื่อไทยจึงเป็น ฉลาด ขามช่วง สส. ร้อยเอ็ด สังกัดพรรคเพื่อไทย เข้ามารับตำแหน่งแทน
ดนุพรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะหารือในวันอังคารที่ 5 สิงหาคม เนื่องจากเป็นการประชุมพรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นใครที่จะเข้ารับตำแหน่งนี้แทน ซึ่งคาดว่าวันอังคารน่าจะชัดเจนทั้ง 2 เรื่อง และจะต้องดูว่าสัดส่วนนี้ยังคงเป็นของภาคเหนืออยู่หรือไม่ เพราะพิเชษฐ์ก็มาจากภาคเหนือ หากตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ยังคงเป็นของพรรคเพื่อไทย และคงจะต้องมีการพูดคุยกันถึงคนที่จะลงสมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย เขต 7 ว่าจะเป็นใคร
ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเสนอชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ลงชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ดนุพรกล่าวว่า ต้องพูดคุยกันก่อน ถ้ามองว่า พิเชษฐ์มาในสัดส่วนของภาคเหนือ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า นพ.ชลน่าน ที่เป็นสส.จังหวัดน่าน ก็อาจจะมีสิทธิ์ลงชิงตำแหน่งนี้
