วันนี้ (30 กรกฎาคม) สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ และกลุ่ม ส.ส. กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ และภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวชี้แจง กรณีมีสื่อนำเสนอข่าวพรรคเพื่อไทย ต้องการจะลดบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ ว่า ตนไม่สบายใจกับข่าวที่ปล่อยออกมา โดยเฉพาะคนที่แอบอ้างว่าเป็นแหล่งข่าวในพรรค แต่ที่ผ่านมาข่าวความขัดแย้งก็เกิดมาจากกลุ่มแหล่งข่าวกลุ่มนี้ ซึ่งไม่เคยรู้ถึงตัวตน แต่วันนี้สิ่งที่ตนในฐานะหัวหน้าพรรคออกมาพูดคือเรื่องจริง และจะไม่ขอพูดถึงคนกลุ่มนี้อีกแล้ว พร้อมยอมรับว่าในพรรคเพื่อไทยได้หารือกันมาสักระยะหนึ่งแล้วถึงการเตรียมความพร้อม และการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนบทบาทและการทำงานให้สมกับที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งในสนามการเลือกตั้งท้องถิ่น การชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกันว่า จะส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.)-สมาชิกสภาเขต (สข.) ในทุกเขต ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมคณะทำงาน และเล็งบุคคลที่คิดว่าจะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยไว้แล้ว ซึ่งศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานคัดสรรผู้สมัครที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม
สมพงษ์ยังยืนยัน พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดจะลดบทบาท หรือเตะคุณหญิงสุดารัตน์ออกจากพรรค เพราะที่ผ่านมาคุณหญิงสุดารัตน์ทุ่มเทให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่เป็นประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง และทำให้พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่ง ส.ส. ได้มากที่สุด แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นกำลังหลักของพรรคในการต่อสู้ และเป็นผู้นำในการกำหนดยุทธศาสตร์รับฟังปัญหาและลงพื้นที่พบปะประชาชนมาตลอด
ส่วนข่าวที่ออกมาว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคาะโต๊ะให้ คุณหญิงสุดารัตน์ ลงสมัครผู้ว่า กทม. นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องในพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับทักษิณ จึงขอคนที่ปล่อยข่าวอย่านำเอาบุคคลภายนอกมาเชื่อมโยงหรือสร้างรอยร้าวให้พรรคเกิดความเสียหาย
ส่วนการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ แม้ก่อนหน้าพรรคจะเคยประกาศชัดเจนว่าจะไม่ส่งผู้สมัครและจะหารือร่วมกันกับ 6 พรรคฝ่ายค้านนั้น ยอมรับว่ามาถึงวันนี้ความคิดของพรรคเพื่อไทยมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งเรื่องนี้จะได้หารือกับ 6 พรรคฝ่ายค้านต่อไป เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การตัดสินใจมาเป็นหัวหน้าทีมคัดสรรผู้ที่เหมาะสมลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้น โดยเฉพาะปัญหาของคน กทม. ที่สะสมมานาน ไม่ได้รับการแก้ไข ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยอยากเปลี่ยน และยกระดับกรุงเทพฯ ให้ไปอยู่ในจุดที่ดี ออกจากวังวนเดิม วังวนที่คนกรุงเทพฯ ไม่เคยได้รับการพัฒนาปรับปรุง พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะถือเป็นการกระจายอำนาจ จึงอยากมอบโอกาสให้คนกรุงเทพฯ ตัดสินใจอีกครั้ง
สำหรับบุคคลแรกที่พรรคเพื่อไทยจะทาบทามให้มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. นั้นคือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถภาคเอกชนอีกหลายคนที่พรรคเตรียมจะไปทาบทาม พร้อมย้ำว่าการที่ตัดสินใจให้ชัชชาติกลับมาช่วยงานพรรค แม้ก่อนหน้านี้จะประกาศจุดยืนลงสมัครในนามอิสระ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพรรคว่าก็เป็นการตัดสินใจในขณะนั้น แต่ครั้งนี้หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยก็จะไปพูดคุยและเทียบเชิญให้กลับมาเพื่อเปลี่ยนโฉม กทม.
คุณหญิงสุดารัตน์ยังปฏิเสธว่าไม่ได้สนใจที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เพราะงานในพรรคเพื่อไทยยังมีอีกหลายอย่างที่ค้างอยู่ ซึ่งตนอยากทำงานให้เสร็จก่อน ยังมีปัญหาประชาชนที่ไม่ได้รับการแก้ไข
ขณะที่ สุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม ออกมาชี้แจงกระแสข่าวที่ว่า ส.ส. อีสาน ไม่เอาคุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะ ส.ส. อีสานทุกคนมีวันนี้ได้ เพราะความทุ่มเทของคุณหญิงสุดารัตน์ในศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา และหากคุณหญิงสุดารัตน์จะไปลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ส.ส. อีสานก็ไม่อนุญาต และต้องฟังเสียงในพรรคทุกคน พร้อมยอมรับคนเราอยู่ด้วยกันหมู่มาก ต่างคนต่างความคิด แต่สิ่งที่แน่ที่สุดคือความจริงที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้ว่า คนอีสานและ ส.ส. อีสาน รักและเคารพคุณหญิงสุดารัตน์ และพร้อมที่จะให้เป็นผู้นำกิจกรรมการเมืองของพรรคต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า