วันนี้ (7 พฤษภาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข หารือร่วมกับผู้บริหารบริษัท Pfizer ประจำประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการสั่งซื้อวัคซีน ซึ่งหลังการหารือที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง อนุทินเปิดเผยว่า ได้หารือกันในข้อตกลงโดยเฉพาะหลักการบันทึกข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ซึ่งตัวแทนของ Pfizer ยืนยันว่า หากไม่ติดขัดปัญหาและทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกัน วัคซีน Pfizer จะส่งมาถึงประเทศไทยในไตรมาส 3 และ 4 ซึ่งก็คือเดือนกรกฎาคม จำนวน 10-20 ล้านโดส หรืออยู่ที่ความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกันนี้ตนยังขอให้ Pfizer เร่งยื่นเอกสารจดทะเบียนขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เร็วที่สุด แต่ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังได้ข้อสรุปข้อตกลงฉบับแรก โดยอนุทินยังย้ำว่าข้อตกลงที่จะสั่งซื้อวัคซีนกับ Pfizer บริษัทจะทำสัญญากับหน่วยงานรัฐเท่านั้น ทั้งนี้หากวัคซีนมีปริมาณเพียงพอก็จะมาดูหลังส่งวัคซีนให้รัฐบาลว่ามีเอกชนรายไหนสามารถส่งให้ได้
“ส่วนข้อตกลงรายละเอียดที่หารือในครั้งนี้นั้นไม่สามารถเอามาเปิดเผยได้เพราะเป็นชั้นความลับ หากเผยข้อมูลแล้วกระทบกับประเทศที่สั่งวัคซีนอื่นๆ จะไม่ดี ส่วนเรื่องราคานั้นย้ำว่าไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณไว้แล้ว ขณะที่วัคซีนที่สั่งมาจะครอบคลุมไปถึงเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ตอนนี้มีปัญหาว่าวัคซีนหลายตัวไม่สามารถฉีดให้กับเด็กได้” อนุทินกล่าว
อนุทินยังกล่าวอีกว่า ผู้จัดการใหญ่ของ Pfizer ได้ย้ำว่า บริษัทสำรองการผลิตวัคซีนไว้สำหรับประเทศไทยแล้ว หากต้องการเพิ่มก็สามารถผลิตให้ได้ ส่วนที่หลายคนออกมาแสดงความเห็นว่าไทยประวิงเวลาสั่งซื้อวัคซีน Pfizer ตนขอย้ำว่าไทยไม่ได้ประวิงเวลาที่จะสั่งซื้อวัคซีน Pfizer เพราะเร่งทำงานกันทุกขั้นตอนโดยเฉพาะการเดินหน้าเจรจา
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ