ก่อนสิ้นปี 2018 ดูเหมือนว่าสองทีมจากแมนเชสเตอร์ต้องเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ฝั่งยูไนเต็ดเริ่มค้นหาดีเอ็นเอของสโมสรได้อีกครั้ง ฝั่งเรือใบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับถึงเวลาของการปรับเปลี่ยน
สองเกมในช่วง Boxing Day แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องพบกับความปราชัย 2 นัดติด ตั้งแต่พ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ ไป 3-2 ต่อด้วย เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-1 แน่นอนเครดิตส่วนหนึ่งยกให้กับทั้งสองทีมที่สามารถเอาชนะแท็กติกและทีมแชมป์เก่าของกุนซือแห่งยุคสมัยอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ แต่ส่วนหนึ่งเป๊ปก็ได้ออกมายอมรับว่า ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างในสโมสรแล้ว
“ถ้าคุณอยากเป็นผู้ท้าชิง เราต้องกลับมาชนะเร็วๆ นี้” เป๊ปกล่าวภายในงานแถลงข่าวหลังการพ่ายแพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่สอง
“เราต้องพยายามชนะอีกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเรียกกำลังใจ ความมั่นใจ และความกระหายของพวกเขา คุณต้องมีความมั่นใจที่จะเล่นและกลับมาให้ได้ ผมต้องสะท้อนบทเรียนและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทีมต้องการ และจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร
“นั่นคือสิ่งที่ผมกังวลอยู่ตอนนี้ การจะทำให้พวกเขากลับมาเล่นในแบบที่พวกเขาอยากเล่น ขยับอะไรบางอย่างเพื่อชัยชนะ
“ผลการแข่งขันที่ดีส่งผลกระทบต่อจิตใจมาก เวลานี้เราจะต้องพบกับความไม่มั่นใจ แต่เราต้องพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเพื่อชัยชนะและผลงานที่ดี ซึ่งผมเชื่อว่าเราจะสามารถทำได้”
เช่นเดียวกันกับทีมจ่าฝูงลิเวอร์พูล ซึ่งขณะนี้มีคะแนนห่างอันดับที่ 2 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่ 6 คะแนน และทิ้งห่างแมนฯ ซิตี้ ในอันดับที่ 3 อยู่ 7 แต้ม ซึ่ง เจอร์เกน คลอปป์ ที่เพิ่งเก็บชัยชนะเหนือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไป 4-0 ก็ยอมรับว่า การตุนไว้ 6 คะแนนก่อนต้องพบกับอาร์เซนอลและซิตี้ในสองเกมข้างหน้าถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก
“นี่คือสิ่งที่เราต้องการตั้งแต่แรก เราต้องการสร้างประวัติศาสตร์ของเราเอง และนี่เป็นครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลรักษาสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกได้ยาวนาน และเสียประตูเพียง 7 ลูก แน่นอนเป็นสถิติที่ดี แต่เราต้องลงสนามพบกับอาร์เซนอลและซิตี้ต่อ รวมถึงท็อตแนมและทีมอื่นๆ อีกครั้ง เราต้องรักษาความตั้งใจและวิสัยทัศน์ของเราไว้ และดูว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะนำพาเราไปทางไหน”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: