×

พรรคประชาชนไม่เห็นด้วย ประธานปิดประชุมก่อนได้ลงมติรายงาน กมธ. นิรโทษกรรม สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น

โดย THE STANDARD TEAM
17.10.2024
  • LOADING...
พรรคประชาชน

วันนี้ (17 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา สส. พรรคประชาชน นำโดย ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน), รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และ ชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎรแถลงภายหลังประธานในที่ประชุมสภาปิดประชุม ขณะที่กำลังถกเถียงว่าจะโหวตรับหรือไม่รับรายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการ

 

ชัยธวัชกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่ประธานสภาชิงปิดการประชุมก่อน เนื่องจากการพิจารณาควรจะเสร็จในวันนี้เพื่อให้สภาได้พิจารณาวาระอื่นๆ ที่มีอยู่ต่อไป เพราะเข้าใจว่าคุยกันไว้ก่อนแล้วว่าจะมีญัตติด่วนกรณีการร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และยังมีวาระอื่นๆ ที่ควรจะรีบพิจารณาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนที่สมัยประชุมจะปิด จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

 

“ไม่เห็นด้วยและไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะจะเห็นว่ากรรมาธิการแทบไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ขนาด ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะกรรมาธิการ ก็แจงเพียงภาพกว้างก่อนจะเปิดให้ สส. แสดงความคิดเห็นกัน ซึ่งกรรมาธิการตั้งใจว่า เมื่อฟัง สส. อภิปรายจนครบหมดแล้วจะลุกขึ้นชี้แจงเนื้อหาสาระที่สำคัญของข้อเสนอ รวมถึงประเด็นที่ สส. ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับฝ่ายรัฐบาล ทำให้เสียโอกาสที่สภาจะได้ผลักดันวาระที่สำคัญและไม่รู้ว่าสุดท้ายจะมีปัญหาจนกระทั่งไม่สามารถพิจารณารายงานฉบับนี้ให้แล้วเสร็จภายในสมัยประชุมนี้ได้หรือไม่” ชัยธวัชกล่าว

 

ชัยธวัชกล่าวต่อว่า หากครั้งหน้ามีประเด็นปัญหาอีกก็น่าเสียดาย เพราะไม่ว่ารายงานของกรรมาธิการนี้จะผ่านการพิจารณาของสภาหรือไม่ ในการเปิดประชุมสภาสมัยหน้า ก็จะมีร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจ่อรออยู่แล้ว 4 ฉบับ ดังนั้นไม่ควรมีการเตะถ่วงการพิจารณาเรื่องนี้เพื่อให้ทุกพรรคและรัฐบาลรีบนำข้อสรุปความเห็นที่ สส. และสาธารณชนได้ฟังสาระสำคัญขอกรรมาธิการนำไปเสนอร่างกฎหมายของตัวเอง

 

ด้านรังสิมันต์กล่าวว่า ตกลงแล้วความชัดเจนของรัฐบาลต่อการนิรโทษกรรมจะมีทิศทางเป็นอย่างไร เนื่องจากต้องยอมรับว่าหากดูตามรายงาน มีเรื่องการนิรโทษกรรมซึ่งไม่ได้เป็นข้อสรุป แต่เป็นความเห็นของฝ่ายหนึ่งที่เห็นว่าควรรวมมาตรา 112 หรือไม่ควรรวม และยังมีข้อสังเกตอีกหลายประการที่รัฐบาลสามารถทำได้เลย และการที่รายงานฉบับนี้ล่าช้าออกไปทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร และแน่นอนว่าการปิดประชุมเป็นอำนาจของประธานสภา แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้อำนาจนี้ก็ถูกมองได้ว่าเป็นจุดยืนของรัฐบาลหรือไม่ที่ไม่ได้ต้องการให้เรื่องนี้มีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก

 

“อยากให้สังคมตั้งคำถามดังๆ ต่อรัฐบาลว่าตกลงแล้วจะเอาอย่างไร โดยรายงานฉบับนี้พยายามหาจุดที่จะประนีประนอมคุยกันได้ วันนี้สิ่งที่เราอยากจะได้ความชัดเจนที่สุดคือแนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งที่ผ่านมาถูกมองว่าการนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการถอนฟืนออกจากกองไฟ แต่ถ้าบรรยากาศของสภาเป็นเช่นนี้ เราจะถอนฟืนออกจากกองไฟได้อย่างไร เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อทำให้สภาเป็นสถานที่พูดคุยเพื่อคลายความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความขัดแย้งที่ไม่รู้จบและยิ่งยากมากขึ้น” รังสิมันต์ระบุ

 

ขณะที่ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า หากติดตามการประชุมสภาสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประธานสภาปิดประชุมก่อนเวลาที่วิป 2 ฝ่ายตกลงกันไว้ และไม่มีครั้งไหนที่เราสามารถดำเนินการประชุมตามที่วิป 2 ฝ่ายตกลงกันไว้ หากเราติดตามกันตั้งแต่สภาชุดที่แล้วจะเห็นว่ามีรองประธานสภาที่เป็นมือปิด มักจะเป็นตัวแทนมาจากพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งสาเหตุหนึ่งคือกลัวองค์ประชุมล่ม แล้วจะทำให้ประชาชนเห็นว่าฝั่งรัฐบาลอยู่ไม่ครบองค์ประชุมและไม่สามารถประชุมต่อได้ แต่วันนี้พรรคประชาชนแสดงอย่างชัดเจนว่าเราไม่ล่มองค์ประชุมอย่างแน่นอน พร้อมที่จะโหวตไม่ว่าใครจะเห็นอย่างไรกับรายงานฉบับดังกล่าวเพราะถือเป็นวิถีทางประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยก็ส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่หากเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ตีตกไป สภาว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น

 

ปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า สัญญาณหนึ่งที่ส่งผ่านมาจากการปิดประชุมคือเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล โดยในวันนี้พรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติก็ประกาศชัดเจนว่าพร้อมจะลงมติ ตนมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ทราบว่าวันนี้องค์ประชุมครบและไม่ล่มอย่างแน่นอน

 

“การปิดประชุมหนีแบบนี้ก็อาจจะไม่อยากให้ทางสาธารณชนได้เห็นภาพความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ที่อาจจะส่อถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเริ่มจะง่อนแง่น สถานการณ์แบบนี้ครั้งที่แล้วเกิดขึ้นช่วงปลายรัฐบาลที่พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องและเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง จึงต้องปิดการประชุมเพราะองค์ประชุมล่มกันบ่อยครั้ง” ปกรณ์วุฒิกล่าว

 

ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า การปิดประชุมในวันนี้ไม่มีประโยชน์เพราะวันที่ 24 ตุลาคม ก็ต้องกลับมาพูดคุยกันเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาเราคุยกับวิปรัฐบาลมาตลอด เมื่อเช้าตนรับรู้ถึงสัญญาบางอย่างซึ่งพยายามเจรจาแล้ว แต่ก็เข้าใจดีว่าการเจรจานั้นอาจจะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ซึ่งต้องยอมรับกันตามตรงว่าอำนาจในการปิดประชุมเป็นของประธานสภาโดยแท้ ถึงกระนั้นกระบวนการเจรจาก็สำคัญเช่นเดียวกัน แต่อยู่ที่เหตุผลที่ปิดเพราะเหตุผลอะไร

 

ส่วนในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำ น่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยหรือไม่ ปกรณ์วุฒิกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องหาทางออกในเรื่องนี้ให้ได้ ซึ่งกรรมาธิการนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้มีผลการศึกษาก่อนที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย ยิ่งยื้อไปก็ยิ่งเปล่าประโยชน์ เมื่อกฎหมายเข้ามาเราก็ยังมีการผ่านการตกผลึกเลย ซึ่งชูศักดิ์ก็อยู่ใน ครม. คิดว่าคงพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว โดยในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจำเป็นต้องหาทางออกว่าความเห็นต่างในพรรคร่วมรัฐบาลจะจัดการอย่างไร

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X