ประชาชนเบลารุสหลายแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่กรุงมินสก์เมื่อวานนี้ (17 สิงหาคม) หลังประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความเคลือบแคลงเกี่ยวกับผลเลือกตั้งและกระแสต่อต้านการผูกขาดอำนาจของลูกาเชนโกที่นั่งเก้าอี้ผู้นำมานาน 26 ปี
หลังลูกาเชนโกจัดการชุมนุมกลุ่มผู้สนับสนุนที่จัตุรัสอิสรภาพในเมืองหลวง ทำให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้ย้ายไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 แทน โดยบรรยากาศประท้วงดุเดือดขึ้นจากชนวนที่ตำรวจใช้กำลังกับผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ประชาชนจำนวนมากได้ร้องตะโกนขับไล่เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีลาออก และมีการขับรถบีบแตรเพื่อแสดงสัญลักษณ์ด้วย ขณะที่หลายคนแต่งชุดแดงและขาว ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของฝ่ายค้าน
ด้าน มาเรีย โคเลสนิโกวา หนึ่งในแกนนำฝ่ายค้าน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายและนักการทูตออกมาร่วมกดดันลูกาเชนโก โดยระบุว่า “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะต่อสู้กับความกลัวของคุณ เราทุกคนต่างหวาดกลัวด้วยกันทั้งนั้น แต่มาร่วมกับเรา และเราจะสนับสนุนคุณ”
การประท้วงมีขึ้นหลังลูกาเชนโกอ้างว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้บอกกับเขาทางโทรศัพท์ว่ารัฐบาลมอสโกพร้อมให้ความช่วยเหลือตามข้อตกลงร่วมมือทางทหาร หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ลูกาเชนโกถูกขนานนามว่า ‘ผู้นำเผด็จการคนสุดท้ายของยุโรป’ หลังครองอำนาจตั้งแต่ปี 1994 และล่าสุดได้นั่งเก้าอี้ต่อเป็นสมัยที่ 6 หลังประกาศอ้างชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ขณะที่ฝ่ายค้านประณามผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่ามีการทุจริต
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: