×

ศิริกัญญาเผย พรรคประชาชนจัด 49 ขุนพล ช่วยรัฐบาลหางบ ผ่านการอภิปราย ‘ปรับ-ลด-เลื่อน’ งบที่ไม่จำเป็น

โดย THE STANDARD TEAM
28.05.2025
  • LOADING...
พรรคประชาชน

วันนี้ (28 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา ศิริกัญญา ตันสกุล ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ว่า พรรคประชาชนเตรียมผู้อภิปรายไว้ 49 คน โดยใช้หัวข้อ ‘ช่วยรัฐบาลหางบประมาณ’ โดยจะตัดในส่วนที่ไม่จำเป็น เป็นการอภิปรายเชิงประเด็นต่างๆ ในการจัดสรรงบประมาณ ที่ฝ่ายค้านจำเป็นต้องเข้าไปพิจารณาว่า มีความเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ 

 

เช่น ด้านสาธารณสุข สวัสดิการ เกษตร และปากท้องของประชาชน โดยช่วงเริ่มต้นของการอภิปรายจะมุ่งเน้นไปที่ภาพรวมว่ามีส่วนไหนสามารถที่จะปรับปรุงวิธีการและลดปัญหาเรื่องการคอร์รัปชัน จัดลำดับความสำคัญของโครงการใหม่ จัดเอาโครงการที่จำเป็นมาใช้ก่อน ส่วนโครงการที่ไม่จำเป็นขอให้เลื่อนออกไปก่อน 

 

ศิริกัญญากล่าวต่อว่า หากถามว่างบประมาณปี 2569 ตอบโจทย์หรือไม่ บอกเลยว่าไม่ตอบโจทย์ใดๆ เป็นงบประมาณตอบปกติ ถ้าเราหลับไปในช่วงที่โควิดระบาด และตื่นมาในยุคนี้ก็จะพบว่างบประมาณนี้บอกไม่ได้เลยว่า เรากำลังเข้าสู้กับสงครามการค้า แต่ไม่ได้โทษรัฐบาล เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่จัดทำงบประมาณในช่วงนั้น 

 

ส่วนงบประมาณ 2569 ตอบโจทย์กับเศรษฐกิจตอนนี้หรือไม่ ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ไม่ได้ตอบโจทย์ ยังเป็นงบประมาณตามปกติ เหมือนหลับไปตั้งแต่มีโควิด และตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่างบประมาณนี้จัดเป็นช่วงที่ต้องสู้กับสงครามการค้า เราไม่ได้โทษรัฐบาลนี้เสียทีเดียว เพราะไม่มีใครคิดว่าตอนต้นปีในวันที่จัดทำงบประมาณจะต้องเผชิญกับอะไร แต่ก็ต้องเห็นเค้าลางในหลายเรื่อง และเมื่อมาดูงบประมาณที่จัดไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปีที่แล้วไม่ได้มีเหตุการณ์อะไร จัดไว้ 200,000 ล้านบาท แต่ปีนี้เหลือ 20,000 ล้านบาท กองทุน FTA ที่เอาไว้ช่วยเหลือเกษตรกรไม่ได้จัดไว้ ต้นปีรู้แล้วว่าทรัมป์จะมา แต่ก็ไม่ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ กองทุนที่เอาไว้ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้งบประมาณเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท กองทุนช่วยเหลือเกษตรกรกลับถูกลดงบประมาณ ทั้งที่เกษตรกรเป็นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า 

 

ส่วนโครงการอื่นหน้าตาเหมือนเดิมเกือบทั้งหมด บางโครงการพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น โครงการที่เกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ ปีนี้เกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเดี๋ยวจะได้เห็นพรรคประชาชนวิเคราะห์งบประมาณซอฟต์พาวเวอร์กันว่าอย่างไร ตรวจผลงานสองปีที่ผ่านมาจะพร้อมที่จะอนุมัติงบประมาณหมื่นล้านให้กับซอฟต์พาวเวอร์หรือไม่ท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ 

 

สำหรับงบประมาณดิจิทัลวอลเล็ตที่โยกไปยัง 4 โครงการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สมเหตุสมผลหรือไม่ ศิริกัญญา กล่าวว่า สำหรับงบประมาณ 157,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณของปี 2568 เหมือนเป็นกระสุนก้อนสุดท้ายของงบปี 2568 ในการกระตุ้นจีดีพีของปี 2568 ด้วย 4 เรื่อง ที่รัฐบาลอยากทำเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น เป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้ง น้ำ คมนาคม กระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วยเหลือการส่งออก ในและลงทุนในเศรษฐกิจชุมชนต่าง ๆ ซึ่งตามหลักการถูกต้องทุกประการ แต่ขึ้นอยู่กับกระบวนการมากกว่า การที่สุดท้ายแล้วรัฐบาลเปิดให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง อปท. และท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ส่งโครงการเข้ามา แต่ไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไรเลย 

 

หมายความว่า รัฐบาลไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า ว่าอยากเห็นโครงการประมาณไหน ขนาดไหน กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร สร้างงานเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ รัฐบาลไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย แถมกระบวนการจำกัดเวลาค่อนข้างสั้น รอบแรกที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทำแค่วันเดียว แต่ต้องเลื่อน เนื่องจากระบบล่ม ทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นจนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 สะท้อนว่า ไม่ได้เตรียมการอะไรล่วงหน้า ไม่มีโครงการในใจ อยากเห็นเศรษฐกิจถูกกระตุ้นด้วยวิธีการอะไร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำรอย ที่ใช้งบประมาณตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น พรก.เงินกู้ 1.5 แสนล้านบาท ที่รอบแรกมีแผนฟื้นฟู 1 ล้านล้าน แต่ใช้ไม่หมด รอบที่สอง 1.7 แสนล้านบาท ก็ถูกใช้แบบเบี้ยหัวแตก ไม่ได้มุ่งเศรษฐกิจในชุมชนจริง หลายๆ โครงการไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ นี่คือบทเรียนที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่คิดว่ารัฐบาลจะลืมไปได้ง่าย ไม่คิดจะถอดบทเรียน เพื่อที่จะแก้ปัญหาไม่ให้เกิดการซ้ำรอยอีก

 

ส่วนกรณีที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวช่วงหนึ่งในการแสดงวิสัยทัศน์ ‘ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน’ ที่สำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวานนี้ ว่าหากจะดึงงบฯ โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท มาใช้ในการปราบปรามยาเสพติด เชื่อว่าประชาชนคงจะไม่โกรธนั้น

 

ศิริกัญญามองว่า เรื่องนี้ชักจะเกินเลย เนื่องจากมติของคณะรัฐมนตรีที่ออกมานั้นมีแค่ 4 หลักการ โดยสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำคือการกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือให้สินเชื่อ เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนให้ดียิ่งขึ้น แต่หากนำไปใช้ในเรื่องของยาเสพติด คิดว่าน่าจะเกินเลยไปเยอะ เพราะยังมีเม็ดเงินอีกประมาณ 6 หมื่นล้านบาทในงบกลาง แต่รัฐบาลยังไม่ได้นำมารวม จึงอยากให้ทักษิณ ไปขอแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเอางบกลางมาใช้ในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่สำคัญ แต่ควรจะใช้งบประมาณให้ถูกก้อน ไม่ใช่ปะปนกันไปหมด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising