กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children’s Fund: UNICEF) เผยแพร่รายงานผลสำรวจล่าสุด พบว่าในช่วงวิกฤตโควิดระบาด มีผู้คนทั่วโลกจำนวนมากสูญเสียความเชื่อมั่นที่มีต่อการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายแรงสำหรับเด็ก เช่น โรคหัดหรือโปลิโอ
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งจัดทำใน 55 ประเทศ พบว่ามี 52 ประเทศที่การรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับวัคซีนสำหรับเด็กลดลง ซึ่ง UNICEF ชี้ว่าข้อมูลดังกล่าวเป็น “สัญญาณเตือนอันน่ากังวล” ของการลังเลที่จะให้เด็กเข้ารับการฉีดวัคซีนที่มีเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และความไว้วางใจในรัฐบาลที่ลดน้อยลง ตลอดจนการแบ่งขั้วทางการเมืองในแต่ละประเทศ
“เราไม่สามารถปล่อยให้ความมั่นใจในการฉีดวัคซีนตามปกติกลายเป็นเหยื่ออีกรายของการระบาดใหญ่ของโควิดได้ ไม่เช่นนั้นการเสียชีวิตระลอกต่อไปอาจเป็นเด็กที่เป็นโรคหัด คอตีบ หรือโรคอื่นๆ ที่ป้องกันได้” แคเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารของ UNICEF กล่าวในการแถลง
UNICEF ยังชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับความสำคัญในการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเป็นเรื่องที่น่ากังวล ‘มากเป็นพิเศษ’ ซึ่งจากข้อมูลในรายงาน คาดว่าอาจมีเด็กถึงกว่า 67 ล้านคนที่พลาดการฉีดวัคซีนป้องกันหลายโรคร้ายแรงในช่วงที่เกิดโควิดระบาด
รายงานยังชี้ว่า ภาพรวมของความเชื่อมั่นที่มีต่อวัคซีนสำหรับเด็กแตกต่างกันในประเทศต่างๆ โดยในหลายประเทศ อาทิ ปาปัวนิวกินีและเกาหลีใต้ พบว่ามุมมองเรื่อง “วัคซีนมีความสำคัญสำหรับเด็ก” ลดลง 44% ส่วนในกานา เซเนกัล และญี่ปุ่น ลดลงมากกว่า 1 ใน 3 ขณะที่สหรัฐอเมริกา ลดลง 13.6% ส่วนอินเดีย จีน และเม็กซิโก พบว่าความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อวัคซีนสำหรับเด็กยังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม แม้บางประเทศจะมีความเชื่อมั่นต่อวัคซีนสำหรับเด็กลดลง แต่ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 80% ในเกือบครึ่งของประเทศที่ทำการสำรวจ ยังคงมองว่าวัคซีนสำหรับเด็กมีความสำคัญ
ขณะที่ UNICEF เน้นย้ำในรายงานว่า ความเชื่อมั่นในวัคซีนนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่าย และผลลัพธ์ที่ได้ ณ ตอนนี้ อาจไม่ได้บ่งบอกถึงแนวโน้มในระยะยาว
ภาพ: Jeff J Mitchell / Getty Images
อ้างอิง: