มาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วานนี้ (6 มกราคม) ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะถอนกำลังทหารออกจากอิรัก แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรอิรักจะผ่านมติเรียกร้องให้กองกำลังผสมนานาชาติ นำโดยสหรัฐฯ ถอนกำลังออกไปจากอิรัก ภายหลังเกิดความขัดแย้งจากกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งโจมตีทางอากาศสังหาร พลตรี กัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการคนสำคัญของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน
ท่าทีของเอสเปอร์ สวนทางกับรายงานจากสื่อหลายสำนักที่เปิดเผยว่า มีจดหมายจากนายพลจัตวา วิลเลียม เอช ซีลีย์ ผู้บัญชากองทัพสหรัฐฯ ประจำอิรัก ถูกส่งไปถึงทางการอิรัก ซึ่งระบุข้อความว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกำลังพลเพื่อเตรียมตัวสำหรับการถอนกำลังออกจากอิรักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมระบุถึงการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับการถอนทหาร เช่น การเพิ่มการจราจรทางอากาศ สำหรับการอพยพกำลังทหารในช่วงกลางดึก และระบุว่าจะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการอพยพ
“ผมไม่รู้ว่าจดหมายที่ว่านั้นคืออะไร เรากำลังพยายามตรวจสอบว่ามันมาจากที่ไหนและมันคืออะไร แต่ว่าไม่มีการตัดสินใจถอนทหารออกจากอิรักในช่วงนี้” เอสเปอร์ กล่าว
เอสเปอร์ ระบุว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติการต่อต้านกลุ่ม IS ในอิรัก เคียงข้างกองกำลังผสมนานาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจุบัน มีทหารสหรัฐฯ ประจำการในอิรักมากกว่า 5,000 คน ซึ่งปฏิบัติภารกิจทั้งการต่อต้านกลุ่ม IS และการฝึกฝนกองกำลังทหารอิรัก โดยความสับสนดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างที่กองทัพสหรัฐฯ ได้รับคำขู่จากอิหร่าน ที่ประกาศจะล้างแค้นอย่างรุนแรงให้กับการเสียชีวิตของพลตรี โซเลมานี
ทางด้านนายพล มาร์ก เอ. มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่าจดหมายดังกล่าวเป็นความผิดพลาด และเป็นเพียงร่างที่เขียนขึ้นด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างแย่เกี่ยวกับการถอนกำลัง และไม่มีการลงนาม รวมถึงไม่ควรถูกเผยแพร่ พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการถอนกำลังออกจากอิรักเกิดขึ้น
“จดหมายถูกส่งไปยังบุคคลสำคัญของกองทัพอิรักบางคน เพื่อให้ได้รับความร่วมมือสำหรับภารกิจทางอากาศ ก่อนจะถูกส่งต่อจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่งจนมาถึงพวกคุณ (สื่อมวลชน) และเป็นประเด็นถกเถียงกันในตอนนี้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: