วันนี้ (19 เมษายน) ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำราษฎร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีชุมนุมระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง
ต่อมา กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า บรรยากาศในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวพริษฐ์ขึ้นมายังห้องพิจารณา โดยศาลได้อนุญาตให้พ่อเแม่และเพื่อนมีโอกาสพูดคุยกับพริษฐ์ เนื่องจากถูกควบคุมตัว จึงส่งผลกระทบกับปัญหาเรื่องการเรียน
ส่วนการสืบพยานในคดีนี้ อัยการขอให้สืบพยานบุคคลจำนวน 32 ปาก และเอกสารอีก 100 กว่าฉบับ รวม 9 นัด
ขณะที่พริษฐ์แถลงต่อศาลว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จึงไม่มีโอกาสไปแสวงหาพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ พริษฐ์จึงแถลงต่อศาลไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรม ขอปฏิเสธกระบวนการในชั้นศาล เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัว ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังไม่ขอรับผลการวินิจฉัย ไม่ขอเข้าร่วมการต่อสู้คดี รวมถึงขอถอนตัวทนายความจากกระบวนการพิจารณาคดี และไม่ให้เข้าร่วมกระบวนการสืบพยานในคดีนี้อีก
ด้าน สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของพริษฐ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวยังมีความพยายามที่จะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อให้ลูกชายออกมาต่อสู้คดี เช่นเดียวกันกับเรื่องการอดอาหาร ซึ่งลูกชายยังคงยืนยันในหลักการ แม้จะมีหลายคนขอร้องให้เลิกอดอาหารก็ตาม
ขณะที่วันนี้ แม่ของพริษฐ์ได้ยื่นขอประกันตัวลูกชายต่อศาลอาญาใน 2 คดี โดยวางหลักทรัพย์คดีละ 200,000 บาท ระบุว่าพริษฐ์มีอาการทรุดโทรม เชื่อว่าสุขภาพอยู่ในขั้นอันตรายแก่ชีวิต จึงขอศาลให้ประกัน และมีเงื่อนไขให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาศาลยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ระบุยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์