วันที่ (18 กันยายน) ที่วิทยาลัยการอาชีพโพนทอง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยเพื่อช่วย เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย หมายเลข 2 โดยมี แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และ ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัย
ณัฐวุฒิกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยยืนตรงข้าม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตลอด พรรคเพื่อไทยไม่เอา พล.อ. ประยุทธ์แน่นอน ตลอด 8 ปี ผลงานไม่มี พูดจาไม่เข้าหูคน ประเทศไทยเดินมาถึงยุคที่นายกรัฐมนตรีนับ 1-8 ไม่ได้ พร้อมทั้งขอให้เลือกเศกสิทธิ์เป็นนายก อบจ. ให้แลนด์สไลด์เกิดขึ้นทั้งจังหวัดร้อยเอ็ด
นอกจากนี้ณัฐวุฒิยังบอกอีกว่า ครอบครัวสินธุไพร ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย พร้อมขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 25 กันยายน 2565 และในเวลา 19.00 น. ถ้านับคะแนนแล้วผลออกมาเป็นเศกสิทธิ์ชนะเลือกตั้ง ก็ขอมาให้ช่วยเฮกันดังๆ ในตอนนั้นด้วย
จากนั้นแพทองธารขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า ถ้าอยากให้พรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาปากท้อง ต้องเลือกหมายเลข 2 ขอฝากเศกสิทธิ์ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของพี่น้องด้วย เพราะเศกสิทธิ์อยู่ตั้งแต่ชื่อพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ผู้ชายคนนี้จึงไว้ใจได้ ขอให้เลือกเศกสิทธิ์เพื่อแลนด์สไลด์ ตนเองเป็นลูกสาวของพ่อใหญ่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดเผยว่า ระหว่างตนเดินทางมาร้อยเอ็ด พ่อโทรมาหาดิฉันให้บอกกับพี่น้องจังหวัดร้อยเอ็ดว่าคิดถึงมาก
ภายหลังการปราศรัยเสร็จสิ้น แพทองธารให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ติดตามการลงพื้นที่ว่า ตนมั่นใจกับเศกสิทธิ์ เพราะเป็นคนมีคุณภาพและพรรคมีนโยบายที่ดี จึงขอฝากเศกสิทธิ์ หมายเลข 2 เอาไว้ด้วย อีกทั้งยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์เหมือนการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์อีกครั้ง
ขณะที่เศกสิทธิ์กล่าวว่า ไม่กังวลกับคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามที่มีนามสกุลเดียวกับคนในพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อมั่นคะแนนนิยมในจังหวัดร้อยเอ็ดยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันทาง ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าประชาชนจะสะท้อนถึงรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งนายก อบจ. ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันทำให้ลำบากมาก และอยากได้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลด้วย
เศกสิทธิ์กล่าวย้ำช่วงท้ายว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญในการส่งผลถึงรัฐบาลให้รับทราบว่าชาวบ้านกำลังรู้สึกเดือดร้อนและลำบากอยู่ในตอนนี้ ถ้าตนได้รับเลือกตั้งจะขอดูแลพื้นที่ให้ประชาชนอย่างดีที่สุด
