นักวิเคราะห์ประเมินหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ธุรกิจ Digital Transformation และ Data Center รับประโยชน์มากสุด หลังพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ แนะเก็งกำไรระยะสั้นหลังจากราคาหุ้นหลายบริษัทพุ่งขึ้นจนเกินมูลค่าพื้นฐาน แต่ยังเชื่อว่าระยะกลาง-ยาวจะหนุนให้กำไรเติบโต
วันนี้ (1 มิถุนายน) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) จะเริ่มบังคับใช้เต็มรูปแบบ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องปรับรูปแบบและกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องมีการติดต่อกับผู้บริโภคจำนวนมาก
กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า กรณีที่ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะเป็นประเด็นที่ถูกนำมาเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับกระบวนการทำงาน และวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างภาคธุรกิจและกลุ่มลูกค้า
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ประเมินถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากกฎหมาย PDPA บังคับใช้ และหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์ ดังนี้
- ทำให้ภาคธุรกิจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Cloud & Data หุ้นที่ได้รับประโยชน์คือ INSET และ ITEL
- ทำให้ภาคธุรกิจเร่งดำเนินการยกระดับรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Cyber Security) หุ้นที่ได้รับประโยชน์คือ SECURE, VCOM และ MFEC
- ทำให้เกิดความจำเป็นสำหรับผู้ต้องการนำข้อมูลไปใช้งานต้องอิงหลักวิธีที่ถูกตามกฎหมายและสามารถใช้สร้างประสิทธิภาพต่อธุรกิจดีขึ้น (Digital Technology Consults) หุ้นที่ได้รับประโยชน์คือ BE8 และ BBIK
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดกลาง-เล็ก ก่อนหน้านี้ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง และบางบริษัทราคาหุ้นปรับขึ้นเกินมูลพื้นฐาน บล.โนมูระ พัฒนสิน จึงประเมินหุ้นที่ยังมี Upside ค่อนข้างสูงและยังน่าลงทุนในปัจจุบัน ประกอบด้วย INSET, BE8 และ BBIK
ขณะที่ วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีกฎหมาย PDPA ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนปีนี้ จะส่งผลเชิงบวกระยะสั้นกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดกลางและเล็ก ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Transformation รวมถึง Data Center เนื่องจากก่อนหน้านี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก
นอกจากนี้เชื่อว่าการที่ประเทศไทยมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในระยะกลาง-ยาว โดยจะเป็นการสร้างการเติบโตเชิง In-Orgarnic ให้กับธุรกิจ
“ในด้านการลงทุน กรณีที่กฎหมายนี้บังคับใช้ จะเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับธุรกิจเทคโนโลยีดังที่กล่าว แต่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นก็ปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว นักลงทุนจึงต้องเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้อานิสงส์โดดเด่น และมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดี โดยมองว่าหุ้น BE8 มีความน่าสนใจมากสุด” วิจิตรกล่าว
ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.หยวนต้า ระบุว่า เมื่อกฎหมาย PDPA มีผลบังคับใช้ จะทำให้เอกชนและภาครัฐต้องลงทุนในด้านของการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเติบโตของหุ้นในกลุ่ม ICT Small Cap ที่กำลังเจาะตลาดดังกล่าวอยู่ ได้แก่ MFEC, HUMAN, ITEL, INSET และ SECURE