สบน. เร่งตรึงดอกเบี้ยรับมือยีลด์ขาขึ้น ย้ำไม่ได้ออกพันธบัตรรัฐบาลมากเกินจนล้นตลาด แต่ทำเพื่อให้สอดคล้องกับการขาดดุลและหนี้เก่าที่ครบกำหนด เชื่อเหมาะสมและตลาดรองรับได้
วันนี้ (21 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2567 สบน. ได้วางกรอบการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 1.6 แสนล้านบาท เพื่อให้วงเงินการออกพันธบัตรสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลงบประมาณและการเติบโตของมูลค่าหนี้ที่ครบกำหนด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติในแต่ละปี เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดตราสารหนี้
แพตริเซียยังยืนยันอีกด้วยว่า การออกพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้ออกมากเกินไปจนทำให้เกิดภาวะล้นตลาด โดย สบน. มีการพิจารณาแล้ว และเชื่อมั่นว่ามีความเหมาะสม อีกทั้งตลาดยังสามารถรองรับได้เพียงพอ
ส่วนของ Bond Yield อายุ 10 ปีที่มีการปรับตัวสูงนั้น แพตริเซียกล่าวว่า เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การปรับขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายในต่างประเทศ การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน รวมถึงนักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนอื่นเพิ่ม และไม่ได้เกิดจากการออกพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ที่ผ่านมา Bond Yield อายุ 10 ปีในช่วงปี 2565 ก็เคยมีผลตอบแทนสูงกว่าในปัจจุบันมาแล้ว
สบน. เร่งตรึงดอกเบี้ยรับมือยีลด์ขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของ Bond Yield อาจทำให้คลังมีต้นทุนการระดมทุนสูงขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกที่ขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น
แต่ สบน. ได้พยายามวางแผนปรับโครงสร้างการก่อหนี้ให้เป็นอัตราผลตอบแทนแบบคงที่ (Fixed) แทนดอกเบี้ยลอยตัว (Floating) เช่น ในปีนี้จากแผนที่ต้องกู้ทั้งหมด สบน. จะมีการออกเป็นพันธบัตรรัฐบาลเกินกว่าครึ่ง ซึ่งจะช่วยบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและลดภาระของรัฐบาลได้