ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 เมษายน) ว่า เตรียมจะลดข้อกำหนดการสำรองเงินตราต่างประเทศสำหรับสถาบันการเงินลง 1% มาอยู่ที่ 8% ท่ามกลางสถานการณ์ที่ค่าเงินหยวนปรับตัวอ่อนค่าลงในขณะนี้
แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า การปรับลดดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสถาบันการเงินในการใช้กองทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยจะมีผลในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
จางหลัน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันการลงทุน จื้อซิน อินเวสต์เมนท์ (Zhixin Investment Research Institute) กล่าวกับทาง Global Times สื่อของทางการจีนว่า ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับสกุลเงินต่างประเทศเพื่อปรับแต่งอุปสงค์และอุปทานในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนมีเสถียรภาพมากขึ้น
การปรับลดจากระดับ 9 ลงมาอยู่ที่ 8% ครั้งนี้บ่งชี้ว่า สภาพคล่องของสกุลเงินต่างประเทศของจีนที่มีอยู่ราว 10,500 ล้านดอลลาร์จะได้รับการอัดฉีดเข้าสู่ตลาด เพื่อปรับภาวะอุปทานส่วนเกินในปัจจุบันของหยวนในตลาด Forex ซึ่งจะช่วยป้องกันแนวโน้มการอ่อนค่าลงของสกุลเงินหยวนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้
ทั้งนี้ เงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยค่าเงินหยวนในต่างประเทศอ่อนค่าลงเกิน 6.6 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
วันเดียวกันมีรายงานว่า ทางธนาคารกลางจีนได้จัดประชุมใหญ่กับบรรดาธนาคารพาณิชย์รายใหญ่และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนรวม 12 แห่ง ซึ่งการประชุมได้มีการส่งสัญญาณว่าทางธนาคารกลางจะมีการผ่อนคลายกฎระเบียบสำหรับการควบรวมกิจการ
โดยการประชุมชี้ให้เห็นถึงการผ่อนคลายในแง่ของการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับการควบรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่มีใบอนุญาตไม่สมบูรณ์ มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะรวมถึงการอนุญาตให้องค์กรต่างๆ ขยายสินเชื่อที่ค้างชำระภายหลังการเพิ่มเครดิต และขอให้ธนาคารสนับสนุนสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์อย่างเต็มที่
หยานเยว่จิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบันวิจัย E-House China ในเซี่ยงไฮ้กล่าวกับ Global Times ว่า การผ่อนคลายระเบียบข้อบังคับในการควบรวมกิจการที่ผ่อนคลายอาจอำนวยความสะดวกในข้อตกลงบางอย่าง อีกทั้งยังเห็นว่าการขยายระยะเวลาเงินกู้ที่ค้างชำระจะช่วยให้โครงการได้รับเงินทุน ป้องกันไม่ให้โครงการไม่เสร็จ และทำให้โครงการมีศักยภาพในการส่งมอบที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ได้แก่ Shimao Group, Evergrande Group, Zhongliang Holdings Group, Kaisa Group, Sunac China Holdings และ Greenland Holdings
อ้างอิง: