กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลข การจ้างงาน นอกภาคเกษตรในเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่ง มากกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 258,000 ตำแหน่ง กว่าเท่าตัว ขณะที่ตัวเลขการว่างงานลดลงสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิดที่ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับจากปี 1969
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานยังปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า และพุ่งขึ้นถึง 5.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงถือเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ หากแยกดูเป็นรายอุตสาหกรรมพบว่า ภาคท่องเที่ยวและบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 96,000 ตำแหน่ง ตามมาด้วยภาคธุรกิจที่ 89,000 ตำแหน่ง ภาคสาธารณสุข 70,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานของภาครัฐที่ 57,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการผลิตสินค้าและก่อสร้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 32,000 และ 30,000 ตำแหน่ง ตามลำดับ
นอกจากนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤษภาคม โดยปรับเพิ่มขึ้น 386,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 384,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิถุนายน โดยปรับเพิ่มขึ้น 398,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 372,000 ตำแหน่ง
Daniel Zhao หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเว็บไซต์เกี่ยวกับการจ้างงาน Glassdoor ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีกว่าคาดนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ Fed ว่าพวกเขายังสามารถเดินหน้าทำนโยบายการเงินตึงตัวได้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานก็สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังมีความร้อนแรงและมีโอกาสที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวช้ากว่าที่คาด
อ้างอิง: