พยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าภายในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นหนังสือขอลาออกจากกรรมาธิการชุดดังกล่าว
เนื่องจากว่ามีความรู้สึกอึดอัดใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการที่ต้องทำงานร่วมกับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานกรรมาธิการ ซึ่งตนยังมีฐานะเป็นโฆษกกรรมาธิการที่จะต้องรับผิดชอบในการลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดใจ เพราะต้องยอมรับว่าตนคือ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐที่มีความเชื่อมั่นในการเสนอ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาวันนี้จะให้ตนแถลงข่าวเพื่อดิสเครดิต พล.อ. ประยุทธ์ และรัฐบาล ตนทำไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นก็คงเสียคน
พยมกล่าวว่าตนได้พูดคุยกับทางพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะให้ผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าไปนั่งในกรรมาธิการชุดนี้แทนตน เพราะตนระบุเหตุผลไปว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้จริงๆ
พยมยังกล่าวต่อว่าการเข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไม่เคยคุมการประชุมให้อยู่ในวาระประชุม โดยที่ไม่สนใจในประเด็นใหม่ๆ หรือเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน มุ่งเน้นเพียงแต่ต้องการหาประเด็นจาก พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเช่นล่าสุดก็จะรื้อคดีนาฬิกาหรูขึ้นมาพิจารณาใหม่ ซึ่งตนมองว่าเรื่องดังกล่าวจบสิ้นกระบวนการพิจารณาไปแล้ว ตนจึงไม่เห็นถึงประโยชน์ที่ต้องรื้อเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะเป็นการทำงานที่ถอยหลังลงคลอง สิ้นเปลืองเบี้ยประชุมที่มาจากภาษีประชาชน
“ผมไม่เคยมีปัญหากับการทำหน้าที่กรรมาธิการในฐานะ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล หากเรื่องที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ หยิบยกขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมพร้อมที่จะทำ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ใช้กรรมาธิการเป็นเครื่องมือเพื่อจะดิสเครดิต พล.อ. ประยุทธ์ และรัฐบาล” พยมกล่าว
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะให้ใครมาทำหน้าที่ในกรรมาธิการชุดนี้แทน พยมกล่าวว่าจากการพูดคุยเบื้องต้นน่าจะเป็น สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากสิระเป็นคนกล้าสู้ กล้าชน น่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าตน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์