วันนี้ (14 ตุลาคม) สถานการณ์โควิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุด ณ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 644 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในขณะนี้อยู่ที่ 28,224 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในขณะนี้อยู่ที่ 339 ราย จากการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อมาตรการที่ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดปัตตานีได้วางไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องมีการปรับแผนในการรับมือกับการแพร่ระบาด
นพ.อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ของการแพร่ระบาดในขณะนี้น่าจะมาจากมาตรการการผ่อนคลายของ ศบค. ทำให้ภาพของจังหวัดที่มีการระบาดถูกผ่อนคลายไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด ที่ต้องมีมาตรการที่เข้มกว่า ศบค. โดยจะต้องนำมาตรการของ ศบค. มาปรับและทบทวนให้มีความเข้มขึ้นกว่า ศบค. กำหนด
โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการในเรื่องของร้านอาหาร ตลาด มัสยิด ร้านน้ำชา และในชุมชนที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง อาจจะต้องเข้มงวดกว่านี้ โดยเตรียมนำเสนอคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร จะให้ทางร้านต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม รวมถึงผู้ที่นั่งในร้านก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ 2 เข็ม ต้องซื้ออาหารนำกลับไปทานที่บ้าน ส่วนมาตรการในเรื่องตลาด ชัดเจนว่าต้องมีการกำหนดจำนวนแม่ค้า และแม่ค้าต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม การเว้นระยะห่าง ความสะอาดในตลาด เพราะในตอนนี้พบว่าแหล่งชุมชนและพื้นที่ที่มีการแออัดของประชาชนเป็นพื้นที่ของการแพร่ระบาด
นพ.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของการฉีดวัคซีน ถือเป็นประเด็นหลักที่ทางกระทรวงให้ความสำคัญในขณะนี้ โดยในพื้นที่จังหวัดปัตตานีฉีดวัคซีนครอบคลุมไปแล้ว 37% ซึ่งถือว่ายังน้อย ทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า อย่างน้อยทางจังหวัดปัตตานีต้องฉีดครอบคลุม 50% ภายในสัปดาห์นี้ เราได้ดำเนินการฉีดและกระตุ้นการฉีด เพราะกระทรวงส่งวัคซีนมาค่อนข้างเยอะ และคาดว่าในสัปดาห์นี้น่าจะครอบคลุมได้ 50%
สำหรับสถานการณ์โรงพยาบาลสนามในขณะนี้ ซึ่งทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้กว่า 4,000 เตียง ขณะนี้เต็มเกือบหมดแล้ว โดยจะพยายามเปิด Community Isolation (CI) ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 1,300 เตียง เราจำเป็นต้องเพิ่มเตียงของ CI ทั้งหมด อย่างน้อยจะต้องได้ 10,000 เตียง ถึงจะเพียงพอต่อการระบาดในขณะนี้ เพราะแนวโน้มภายในสัปดาห์นี้ อาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ต้องดูมาตรการที่จะปรับแผนรับมือว่าจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ขนาดไหน รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ อาจจะดูในพื้นที่เสี่ยง และมาตรการการตรวจ ATK เชิงลึก ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไป