หากพูดถึงย่านที่มีสถานบันเทิงในยามค่ำคืน ซึ่งเป็นที่รู้จักก็มีอยู่หลากหลายแห่งทั่วกรุงเทพมหานคร แต่ย่านหนึ่งที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมากคือ พัฒน์พงศ์ ซึ่งปัจจุบันย่านนี้เงียบเหงาไปกว่า 2 ปีแล้ว แม้จะมีช่วงจังหวะของการกลับมาเปิดให้บริการบ้างสั้นๆ แต่ก็ไม่เหมือนก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด
ช่างภาพ THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจย่านพัฒน์พงศ์ ที่วันนี้ผับบาร์บางส่วนกำลังถูกรื้อถอนเนื่องจากผู้เช่าเลิกประกอบกิจการ หรือบางส่วนก็ปรับเปลี่ยนมาเปิดให้บริการ ประกอบกิจการอื่นๆ เพื่อประคองตัวในช่วงที่ต้องปิดกิจการผับบาร์
เจ้าของบาร์รายหนึ่งกล่าวกับ THE STANDARD ว่า ตอนนี้จากที่ประกอบกิจการผับบาร์ก็ต้องมาขายอาหารตามสั่งเพื่อให้พอมีรายได้มาประคองตัว โชคดีที่เจ้าของไม่ได้เก็บค่าเช่ามาตั้งแต่ช่วงโควิดเริ่มระบาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้รายรับที่เข้ามายังเพียงพอกับรายจ่าย และจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่ตนเองเคยถูกสั่งปิดกิจการ และกลับมาเปิดได้ไม่กี่เดือนก็ระบาดอีก หากคำประกาศเปิดประเทศของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินหน้าไปถึงวันที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจริง ตนก็จะยังคงไม่เปิดกิจการ เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์และเชื่อว่าจะมีการระบาดซ้ำอีก
“ผมรู้ว่าการตัดสินใจแบบนี้มีความเสี่ยง ที่เกือบจะแน่นอนเลยว่า เมื่อเราเริ่มต้นการผ่อนคลายต่างๆ จะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นการชั่วคราว ซึ่งเราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินดูว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร เราต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ เพราะถ้าเราต้องเสียโอกาสในช่วงเวลาทอง ของการทำมาหากินไปอีกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ผมคิดว่าประชาชนคงรับมือไม่ไหวอีกต่อไป” ส่วนหนึ่งจากถ้อยแถลงของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ประกาศเดินหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเดินหน้าเศรษฐกิจในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และพิจารณาผ่อนปรนเปิดผับบาร์และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้
คนงานกำลังรื้อถอนบาร์แห่งหนึ่งบนถนนพัฒน์พงศ์ ย่านบันเทิงยามราตรีของกรุงเทพมหานคร หลังจากที่ผู้เช่าสถานที่ไม่ได้ทำการเช่าต่อ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ย่านพัฒน์พงศ์เงียบเหงามาร่วม 2 ปีแล้ว
คนงานรื้อกระจกประดับของบาร์แห่งหนึ่งบนถนนพัฒน์พงศ์ ย่านบันเทิงยามราตรีของกรุงเทพมหานคร หลังจากที่ผู้เช่าสถานที่ไม่ได้ทำการเช่าต่อ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ย่านพัฒน์พงศ์เงียบเหงามาร่วม 2 ปีแล้ว
สภาพภายในของบาร์แห่งหนึ่งบนถนนพัฒน์พงศ์ กำลังถูกรื้อถอน หลังจากที่ผู้เช่าสถานที่ไม่ได้ทำการเช่าต่อ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ย่านพัฒน์พงศ์เงียบเหงามาร่วม 2 ปีแล้ว
เสาเต้นอะโกโก้ถูกวางแทนที่ด้วยสิ่งของต่างๆ ซึ่งเจ้าของบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ปรับตัวเองด้วยการขายข้าวแกงหน้าบาร์ที่ไม่สามารถเปิดได้มานานร่วม 2 ปี โดยกล่าวว่าถึงรัฐบาลจะประกาศให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ตนเองก็จะยังไม่เปิด เนื่องจากยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
เสาเต้นอะโกโก้ถูกวางแทนที่ด้วยสิ่งของต่างๆ ซึ่งเจ้าของบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ ปรับตัวเองด้วยการขายข้าวแกงหน้าบาร์ที่ไม่สามารถเปิดได้มานานร่วม 2 ปี โดยกล่าวว่าถึงรัฐบาลจะประกาศให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ตนเองก็จะยังไม่เปิด เนื่องจากยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
เมนูของร้านอาหารย่านพัฒน์พงศ์ ถูกทิ้งไว้ตรงทางขึ้นร้านอาหารที่ปิด
สภาพภายในของบาร์แห่งหนึ่งย่านพัฒน์พงศ์ที่ถูกปิดมานาน
ป้ายประกาศห้ามเข้า ติดไว้หน้าทางเข้าบาร์แห่งหนึ่งย่านพัฒน์พงศ์
ผู้คนเดินผ่านโต๊ะที่ถูกทิ้งไว้หน้าหน้าผับบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ ที่ถูกปิดมานานร่วม 2 ปี
สภาพของทางขึ้นผับบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ที่ถูกปิดมานาน
บรรยากาศหน้าผับบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ที่ถูกปิดมานาน
ร้านขายของที่ระลึกย่านพัฒน์พงศ์ ยังคงเปิดขายตามปกติ แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่ยังเปิดขาย
