จากกรณีการสูญเสียของนักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ จากเหตุตกเรือสปีดโบ๊ตในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี ในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อนจะพบร่างของแตงโมในอีก 2 วันถัดมา
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาสู่การตั้งคำถามบนสังคมสื่อออนไลน์อย่างล้มหลาม นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึงวันตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงในมุมของ กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวและเพื่อนของแตงโม รวมถึงการให้สัมภาษณ์ของ พนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม ที่ให้การโต้ถ้อยแถลงของกระติก โดยเชื่อว่าลูกสาวขของตนถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจโดยผู้จัดการคนดังกล่าว ท่ามกลางการหยิบยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและความจริงที่เกิดกับลูกสาวให้ปรากฏต่อสาธารณะ
โดยคำแถลงระหว่าง กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และคุณแม่พนิดา ศิริยุทธโยธิน มีรายละเอียดโดยสรุปแบบเข้าใจง่ายดังนี้
คำแถลงจาก ‘กระติก’ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา และ แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมเปิดใจครั้งแรกหลังให้ปากคำตำรวจ หลังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสงสัยว่า 5 คนบนเรือทั้งหมดอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของแตงโม โดยสรุปได้ดังนี้
- วันเกิดเหตุ (24 กุมภาพันธ์) เป็นการพบปะกลุ่มเพื่อนประกอบไปด้วย แตงโม, กระติก, แซน และ ปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ (ผู้ขับเรือ) รวมถึงเพื่อนของปออีก 2 คน ประกอบด้วย โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ และ จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร เพื่อไปล่องเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยา รับประทานอาหารริมแม่น้ำ และล่องเรือถ่ายรูปเล่น
- ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จมีการดื่มไวน์เข้าไปด้วย ได้เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก่อนออกจากร้านอาหาร แต่ช่วงเวลานั้นแตงโมปฏิเสธว่าไม่ได้ปวดปัสสาวะ จึงไม่ได้เข้าห้องน้ำ และเดินทางออกมาจากร้านอาหาร ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. เพื่อล่องเรือกลับมายังอู่จอดเรือ
- ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุคือเวลา 22.00 น. ตนกำลังนั่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของเรือ เพราะไม่ได้มัดผม ทำให้ต้องหันหน้าไปทางหัวเรือเพราะเรือกำลังแล่นอยู่ เพื่อไม่ให้ผมบังหน้า จึงไม่เห็นว่าแตงโมเดินไปหลังเรือเพื่อปัสสาวะ มีเพียงได้ยินเสียงแซนตะโกนกลับมาว่าแตงโมตกเรือ
- จากนั้นจึงตะโกนบอกให้ด้านหน้าหยุดเรือ ซึ่งยืนยันว่าตอนนั้นเห็นโรเบิร์ตยืนอยู่ตรงหน้าพวงมาลัย ซึ่งได้สลับกันขับเรือกับปอ และปอก็รีบเข้าไปหมุนพวงมาลัยเรือกลับมาเพื่อค้นหาแตงโมในทันที แต่ก็ไม่พบ
- เมื่อหาไม่พบจึงพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ รวมถึงเพื่อนที่อยู่บนบกให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ออกตามหา
- ส่วนประเด็นที่ไม่ได้โทรหาคุณแม่ของแตงโมหลังเกิดเหตุนั้น กระติกยอมรับว่าไม่ได้สนิทกันเป็นการส่วนตัว จึงไม่ได้นึกถึงในขณะนั้น พร้อมยืนยันว่าขณะเกิดเหตุการณ์เรือไม่ได้แล่นเร็ว
คำแถลงของ ‘แซน’ ผู้อยู่กับแตงโม ก่อนตกเรือ
- แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ บอกว่า ขณะนั้นตนกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณเบาะของท้ายเรือ ในลักษณะพาดขาออกไปทางนอกเรือ
- คาบเกี่ยวช่วงเวลาเดียวกัน ‘แตงโม’ เดินเข้ามาบอกว่าจะปัสสาวะและจับขาตนไว้ ก่อนจะออกไปนั่งปัสสาวะบริเวณท้ายเรือโดยเกาะกาบเรือไว้
- แซนระบุว่าตอนนั้นไม่ได้สนใจ เนื่องจากเพื่อนกำลังทำธุระส่วนตัว ซึ่งรู้ตัวอีกทีเป็นจังหวะที่แตงโมลุกขึ้นจากท้ายเรือ แต่เกิดลื่นจึงทำให้แตงโมตกเรือในทันที ตนจึงร้องเรียกเพื่อนที่อยู่ด้านหน้าให้หยุดเรือ
- ส่วนข้อสงสัยเรื่องชุดบอดี้สูทที่แตงโมใส่ จะสามารถถอดปัสสาวะได้หรือไม่ แซนยืนยันว่าผู้หญิงจะรู้วิธีการแหวกเพื่อปัสสาวะได้
หลังเกิดเหตุ…ทำไมเลือกกลับบ้าน, รูปใน IG หาย, ปิดข่าว?
- กระติกยอมรับว่าคืนนั้นกลับบ้านในช่วงเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. เพราะมีอาการเหนื่อยล้าจากการตามหาเพื่อน จึงตัดสินกลับไปที่บ้านก่อน บวกกับมีความคิดถึงลูกด้วย และย้ำว่าในหัวของตนตอนนั้นคิดว่าเพื่อนคงขึ้นฝั่งและกลับมาตั้งหลักที่บ้านได้ และตั้งใจว่าจะกลับมาอีกครั้งในวันต่อมา
- แต่เกิดประเด็นในสังคมที่ตั้งข้อสงสัยพวกตน จึงตัดสินที่จะหาทนายมาเพื่อปรึกษาถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และที่ไม่ออกมาพูดหรือพูดช้า เพราะสภาพจิตใจยังไม่พร้อม
- ยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้รับงานเอ็นเตอร์เทนให้แตงโมตามที่เป็นข่าว เป็นการไปเที่ยวตามปกติ
- กระติกเข้าใจหากทุกคนจะโทษว่าตนดูแลเพื่อนไม่ดี พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่มีการผลักตกน้ำ ไม่มีทางที่จะเกิดประเด็นนี้ขึ้น เรารักกัน เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม เพราะถ้าแตงโมเสียชีวิตไป ทุกคนต้องเข้าใจด้วยว่าเงินกระติกก็หายไปเหมือนกัน ที่ผ่านมาแตงโมอยู่ช่วยกระติกตลอด ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนทุบหม้อข้าวตัวเอง คนเราจะหาความลำบากมาให้ตัวเองทำไม
- กระติกย้ำว่าไม่ได้คุยกับแม่แตงโมตั้งแต่เกิดเหตุ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ถึงได้มีโอกาสคุยกัน ซึ่งปฏิเสธว่าคนที่โทรไปหาแม่ของแตงโมคืนนั้นไม่ใช่ตนเอง
- ส่วนกรณีที่คุณแม่ของแตงโมบอกกับสื่อว่ากลุ่มเพื่อนพยายามเจรจาให้คุณแม่ปิดข่าว กระติกยืนยันว่าตนเพิ่งได้เจอแม่เมื่อคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ส่วนใครเป็นคนเรียกคุยนั้นต้องให้คุณแม่มาชี้ตัว
- ส่วนรูปใน Instagram ของแตงโมที่หายไป ยืนยันว่าไม่ได้ลบ เพราะไม่รู้รหัสผ่าน และไม่ได้จับหรือแตะต้อง ซึ่งมีการนำไปคืนที่บ้านเพราะเป็นของเพื่อน
- ขณะที่เรื่องการใส่เสื้อชูชีพ ยอมรับว่าเป็นอุปสรรคในการถ่ายรูป และเรือก็ไม่ได้แล่นเร็ว จึงไม่ได้คาดการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
- ด้านแซนระบุว่า ทันทีที่เกิดเรื่องได้โทรขอความช่วยเหลือจากกู้ภัย และมีหลักฐานว่าโทรหาถึง 3 รอบ พร้อมแจ้งพิกัดตามข้อเท็จจริงหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานมากกว่าจะถึงจุดเกิดเหตุ
- จากเหตุการณ์นี้ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียเพื่อน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดและอยากให้เกิด ขอให้สังคมเห็นใจด้วย
คำแถลงของ ‘คุณแม่ของแตงโม’ เชื่อลูกสาวถูกทำร้ายทั้งกาย-ใจ
วันที่ (27 กุมภาพันธ์) พนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม เข้ามาติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติม เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าลูกสาวถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
- พนิดาบอกว่ายังไม่ได้พูดคุยกับ ‘กระติก’ ผู้จัดการส่วนตัว แม้จะมีการอ้างว่าได้พูดคุยแล้วที่สถาบันนิติเวชวิทยาตอนไปดูร่างของแตงโม
- ย้ำว่าทุกอย่างที่กระติกแถลงต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก
- เรื่องที่กระติกบอกว่าลูกสาวตัวเองไปปัสสาวะท้ายเรือ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ลูกสาวไม่มีทางทำแบบนั้นในที่ที่มีคนเยอะ
- พนิดาเปิดเผยรายละเอียด หลักฐานที่นำมาให้การต่อตำรวจ ว่าเป็นบทสนทนาเรื่องราวของคนบนเรือที่ตกลงคนละเรื่องที่บอกว่าชวนแตงโมไปนั่งเรือเล่นและกินข้าว ซึ่งบทสนทนาในแชตข้อความคือต้นเหตุที่ทำให้แตงโมไม่พอใจจนเกิดปัญหาไม่พอใจในเรือ
- และหนึ่งในหลักฐานนั้นคือที่มีคนมาแขวนไว้ตรงประตูบ้าน คือ กล่องซีดีเพลงของวงเมทัลชื่อดังอย่าง Metallica โดยด้านในมีกระดาษที่ถูกขีดเขียนด้วยตัวหนังสือแปลกๆ ที่ไม่สามารถสื่อความหมายอย่างแน่นอน และไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คือการขู่ให้แม่กลัวแบบทางอ้อมหรือไม่ ซึ่งตนย้ำว่าไม่กลัว
- ส่วนที่กระติกบอกว่าไม่ได้สนิทสนมกับแม่จนไม่ได้ติดต่อตอนลูกสาวหาย พนิดายืนยันเป็นเรื่องโกหก เพราะมีการติดต่อไปมาหาสู่และรับงานของแตงโมด้วยกัน และมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ในบางงาน
- ยืนยันว่าลูกสาวของกระติกไม่ใช่ลูกบุญธรรมของแตงโม เพียงแต่ที่ผ่านมาครอบครัวรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มาก ช่วยเหลือและส่งเสียเข้าโรงเรียนที่ดี เรื่องนี้คนที่จะพูดโกหกก็คือกระติก และรอให้ความจริงออกมา