วันนี้ (10 มกราคม) เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และ ปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ยุติไม่อุทธรณ์คดี หลังศาลแขวงดุสิตพิพากษายกฟ้อง คดีตน และประชาชนตกเป็นจำเลย ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมข้อ 1 (ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง) เนื่องจากเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือลาออกให้นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งต่อมาศาลเเขวงดุสิตมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยมีตัวแทนของสำนักงานอัยการสูงสุดมารับหนังสือ
ภัสราวลีเปิดเผยว่า ในส่วนของการรับหนังสือในวันนี้จะมีการส่งต่อให้อธิบดีอัยการศาลสูงเป็นคนพิจารณาต่อไป ทางเรายืนยันอย่างหนักแน่นให้อัยการคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน คือการยุติคดีนี้โดยการไม่ยื่นอุทธรณ์ ถ้าหากคดีนี้ยังดำเนินต่อไปก็จะเป็นการตอกย้ำความอยุติธรรมในสังคม เพราะฉะนั้น ประชาชนอย่างเรามีสิทธิเสรีภาพในการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ออกมาเรียกร้องสิ่งที่จะดีกว่านี้ในสังคมไทย ดังนั้น กระบวนการยุติธรรมก็ไม่ควรพรากความยุติธรรมไปกับประชาชน จึงอยากให้อัยการเป็นหน่วยงานที่คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน
“หลังจากนี้ดิฉันหวังว่า ทางอัยการจะรับพิจารณาตามข้อเรียกร้องนี้ และจะคำนึงถึงความเป็นธรรมที่ควรจะต้องเกิดขึ้น และรวมถึงคดีอื่นๆ ด้วยที่เป็นการชุมนุมใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เพราะถ้าหากเราพูดว่าประเทศเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น ประชาชนจะต้องสามารถออกมาพูดได้ และออกมาแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ควรจะถูกสกัดกั้นด้วยการถูกดำเนินคดีความ เพราะฉะนั้น อัยการจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะยุติวงจรนี้ และให้กระบวนการยุติธรรมอยู่กับประชาชนเป็นหลัก” ภัสราวลีกล่าวทิ้งท้าย