วันนี้ (12 กันยายน) เมื่อเวลา 20.00 น. ที่อาคารรัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนถามถึงวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่จะมีอายุครบ 57 ปี เป็นโอกาสวันคล้ายวันเกิดจะขอพรอะไรให้กับประเทศบ้าง
อนุทินกล่าวว่า ขอพรให้ทุกวันอยู่แล้ว เพราะถ้าประเทศดีเราก็ดีด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ชวนตนไปใส่บาตรที่วัดราชบพิธฯ เพราะว่าเป็นวัดที่ติดกับกระทรวงมหาดไทย
ส่วนการประชุม ครม. ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะมีการเสนอในหลายวาระ แต่ต้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน ส่วนที่ลงนามไปแล้วคือการของบกลางเพื่อจัดหาอาหารเสริมจำพวกนมให้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในเบื้องต้นสำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบ
ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีการแบ่งวาระงานของรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อนุทินระบุว่า ไม่ทราบ ต้องแล้วแต่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะกำหนดให้การปราบมาเฟียเป็นวาระแห่งชาติหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าปราบมาเฟีย เพียงแต่ทำให้ผู้มีอิทธิพลตามท้องถิ่นต่างๆ ที่ทำการละเมิดกฎหมาย ข่มเหงชาวบ้านเท่านั้นเอง คนดีๆ ก็มีเยอะ ถ้าบอกไปปราบ ไปขึ้นบัญชีเท่าไรก็ไม่หมด แต่จะทำอย่างไรให้บทลงโทษอย่างรุนแรงและไม่เปิดโอกาสให้เขาทำผิดกฎหมาย ก็ดูสิ หากทำผิดกฎหมายแล้วเป็นอย่างไร คนที่เบ่ง คนที่ใช้อำนาจไม่ถูก คงจะต้องถูกดำเนินคดีไม่รู้อีกกี่ข้อหา คนที่สังหารผู้บริสุทธิ์สังหารเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสุดท้ายก็อยู่ได้ไม่เกินข้ามคืน เพราะฉะนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี แล้วถามว่าจะให้ไปปราบแบบไหน มีเรื่องขึ้นมาทีก็ไล่ล่ากันที มันไม่ใช่ ตนก็ต้องเข้าไปดูว่าที่ผ่านมามันเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้กรมการปกครอง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็ได้มีมาตรการที่จะป้องกันเหตุเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายนโยบายรัฐบาลจะเสร็จสิ้นในวันนี้ มองภาพรวมการทำงานของฝ่ายค้านเป็นอย่างไรบ้าง อนุทินกล่าวว่า ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงข้อสงสัยของฝ่ายค้าน มองฝ่ายค้านมีสปิริต เพราะประเด็นใดที่ตอบไม่ได้ ฝ่ายค้านก็ไม่ได้ไล่บี้จนตอบไม่ถูก แต่ตรงกันข้าม กลับได้รับกำลังใจ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นข้อแนะนำอยู่ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ลิงโลด แต่ถือว่าวันนี้ฝ่ายค้านให้คำแนะนำ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องไปทำงานให้ดีที่สุด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติงานของรัฐบาล
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง อนุทินกล่าวว่า จะพยายามแต่งตั้งให้เร็วที่สุด ทั้งตำแหน่งที่ปรึกษา เลขาฯ รองเลขาฯ รองโฆษกรัฐบาลในโควตาพรรคภูมิใจไทย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อในตอนนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าผ่านการอภิปรายผ่านมาแล้ว 2 วัน รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะของฝ่ายค้านไปปฏิบัติอย่างไรบ้าง อนุทินกล่าวว่า มีหลายเรื่องที่จะนำไปปฏิบัติ สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็จะนำไปพิจารณา
