วันนี้ (19 พฤษภาคม) ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ว่า ตอนนี้เราเตรียมร่างกฎหมายแก้ไขพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ทันทีที่รัฐสภาเปิด
“ถ้าพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยประกาศร่วมกันเกิน 300 เสียงแก้ไขได้ ยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้ เมษายนครั้งที่แล้วจะเป็นครั้งสุดท้ายในการจับใบดำ-ใบแดง และผมก็ได้ข่าวว่านักเรียนมัธยมบางคนเริ่มหยุดเรียน รด. แล้ว” พริษฐ์กล่าว
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ถ้าทหารไม่พอ ทหารหายไปหมด จะทำอย่างไร พริษฐ์กล่าวว่า ขอชี้แจงด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมี 2 ตัวเลขที่สำคัญ คือ
- ยอดทหารกองประจำการหรือพลทหาร 100,000 คนต่อปี คือตัวเลขที่กองทัพขอตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วงหลังๆ ลดลงเรื่อยๆ
- ตัวเลข 40,000 คน คือจำนวนที่สมัครใจเข้ามา ดังนั้นส่วนต่างคือ 60,000 คนที่มาจากการจับใบดำ-ใบแดง
พริษฐ์กล่าวต่อไปว่า ตัวเลข 100,000 คน สามารถปรับลดลงมาได้ 30-40% ซึ่งประเทศอื่นก็มีขนาดกองทัพที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่สหรัฐอเมริกาที่ถูกมองว่ามีกองทัพเข้มแข็งที่สุด เนื่องจากภัยต่อความมั่นคงเปลี่ยนรูปแบบ และมีพลทหารบางส่วนที่ถูกใช้ไปในหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง การยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจและแรงกดดันกับกองทัพ ทำให้ปฏิรูปตนเองและยกระดับคุณภาพชีวิตของพลทหาร
พริษฐ์กล่าวต่อว่า อีกส่วนคือการเพิ่มยอดสมัคร ด้วยการเพิ่มสวัสดิภาพของพลทหาร ทำให้ปลอดภัยและมีอนาคต เช่น การเพิ่มรายได้และค่าคงที่ เงินเดือนจะต้องไม่โดนหัก โอนเงินครบ ไม่หัก ไม่ทอน และที่สำคัญคือเรื่องของความรุนแรงในค่าย การละเมิดสิทธิ และการธำรงวินัยเกินขอบเขต ถ้ากำจัดในส่วนนี้ได้ เชื่อว่าคนอยากจะเป็นทหารเกณฑ์มากขึ้น
“ทั้งนี้ เราจะมีการจัดตั้งผู้ตรวจการกองทัพ ซึ่งเป็น 1 ใน 300 นโยบาย ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบกองทัพในเรื่องของการใช้อำนาจ งบประมาณ และรับเรื่องร้องเรียน รับรองหรือแต่งตั้งโดย ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่เราเคยเสนอไปแล้ว แต่ถูกตีตกไป ยืนยันว่า นโยบายการยกเลิกเกณฑ์ทหารไม่ได้เป็นปรปักษ์กับกองทัพ” พริษฐ์กล่าว
พริษฐ์กล่าวย้ำว่า ในมุมนักการเมือง เรามีหน้าที่ที่จะต้องทำนโยบายให้เกิดขึ้นจริง แต่ในฐานะประชาชน ต้องตรวจสอบกันเองภายในพรรค ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้ และในฐานะที่เป็นรัฐบาลสมัยแรก ความสามารถในการทำให้นโยบายเกิดขึ้นจริงจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของพรรคก้าวไกล จะทำให้พรรคก้าวไกลยืนระยะทางการเมืองได้
ด้าน ศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า งบประมาณควรถูกใช้ไปอย่างถูกที่ถูกทาง เราไม่เคยต่อต้านการซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย ไม่ได้โจมตีว่าจะไม่เอา แต่ต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงควรเอาหรือไม่ควรเอา ซื้อเท่าที่จำเป็น ในส่วนของเรือดำน้ำสามารถแก้ปัญหาในเรื่องของเครื่องยนต์ได้ ต้องไม่ใช่เครื่องยนต์จากประเทศจีน ถ้าไม่มีลำแรก อีก 2 ลำก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนเครื่องบิน F-35 ต้องรอดู เนื่องจากเพิ่งจะจ่ายงวดแรกไปแค่ 5% และจะมี AI จับโกง ช่วยเตือนในเรื่องของการจัดซื้อ-จัดจ้างที่ไม่เป็นธรรม