วันนี้ (4 พฤศจิกายน) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีตอบรับเรื่องการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 2 ครั้ง โดยระบุว่า เรื่องจำนวนการทำประชามติ พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยมีความเห็นตรงกันมานานแล้วในเชิงความจำเป็นของกฎหมายว่าจัดทำ 2 ครั้งก็เพียงพอ
พริษฐ์กล่าวต่อไปว่า เพียงแต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลพยายามยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขยายให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 หมายถึงให้มีจำนวนการทำประชามติทั้งหมดกี่ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าวไปวินิจฉัย ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรอาจวินิจฉัยหรือตีความเรื่องดังกล่าวต่างจากพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย จนไปมองว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ส่งผลให้ไม่ได้บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ของพรรคเพื่อไทยและอดีตพรรคก้าวไกลที่ยื่นไปเมื่อต้นปี
พริษฐ์ระบุว่า ดังนั้นตนเองมองว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนสอดคล้องกันมาตลอด แต่มาถึงวันนี้เราก็ต้องขบคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้แผนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องอาศัยการทำประชามติ 3 ครั้งเกิดขึ้นได้จริง
พริษฐ์ชี้ว่า ยังมี 3 ล็อกหรือ 3 บุคคลสำคัญที่ต้องเข้าไปหารือคือ
- ประธานรัฐสภา เพราะการเดินหน้าทำประชามติ 2 ครั้งจะไม่เกิดขึ้น หากประธานรัฐสภายังคงยืนยันตามเดิมว่าไม่บรรจุร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ สสร. เข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งจะต้องทำให้ประธานรัฐสภาเห็นว่าการบรรจุร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ สสร. สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 หากพิจารณาความเห็นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน จะเห็นว่าส่วนใหญ่เขียนชัดเจนว่า 2 ครั้งเพียงพอ
- นายกรัฐมนตรี เพราะการทำให้สมาชิกรัฐสภาลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดย สสร. โดยไม่นำคำวินิจฉัยที่ 4/2564 มาเป็นเงื่อนไข บุคคลที่มีบทบาทสำคัญคือนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งจะต้องขอเข้าพบเพื่อขอความร่วมมือให้หารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้มีจุดยืนที่สอดคล้องกันในการเดินหน้าจัดทำประชามติ 2 ครั้ง และลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกร่างฉบับใหม่โดย สสร.
- ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากปัจจุบันสังคมยังมีความเห็นต่างเกี่ยวกับการทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะต้องทำกี่ครั้ง จึงเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญควรขยายความให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าคำวินิจฉัยที่ 4/2564 มีความหมายอย่างไรหรือทำประชามติกี่ครั้ง หากชัดเจนว่าทำ 2 ครั้งตามที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยตีความ จะทำให้ทุกฝ่ายมีความสบายใจมากขึ้นที่จะเดินตามแนวทางดังกล่าว
“ผมในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองได้หารือในกรรมาธิการ มีมติส่งหนังสือขอเข้าพบกับ 3 บุคคลดังกล่าว เนื่องจากวาระการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ทันต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่เป็นเพียงวาระที่รัฐบาลและฝ่ายค้านประกาศว่าเห็นตรงกัน แต่ยังเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้ให้สัญญาไว้กับประชาชน” พริษฐ์กล่าว
พริษฐ์ยังกล่าวถึงความเห็นของบุคคลในพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการทำประชามติ 2 ครั้งว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลพร้อมหารือถึงทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ยังคงรอคำตอบจากหนังสือที่ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากส่งหนังสือไปช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา