วันนี้ (22 มีนาคม) ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 เดือน พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน กรณีละเมิดอำนาจศาล ปฏิบัติตนไม่เรียบร้อยในห้องพิจารณา แต่เนื่องจากรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 15 วัน และพิจารณาตามสถานะนักศึกษา ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน มีความรู้สำนึกในการทำผิด รวมทั้งข้อหาดังกล่าวกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน สุดท้ายศาลจึงพิจารณาให้กักขัง 15 วัน ตามกฎหมายอาญามาตรา 23
โดยจากการไต่สวน พริษฐ์ให้เหตุผลต่อผู้พิพากษาว่า ในวันดังกล่าวมีการพิจารณาคดีจำเลยหลายคน และพริษฐ์โดนพิจารณาใน 2 เรื่อง แต่ไม่มีโอกาสได้แย้งหรือเรียกร้องขอประกัน จึงใช้โอกาสยืนขึ้นแถลงกลางห้องพิจารณาคดี แต่ผู้พิพากษาเล็งเห็นแล้วว่าจะเกิดความวุ่นวายจึงลงจากบัลลังก์ แต่พริษฐ์ยังยืนกรานจะทำพฤติกรรมต่อเนื่อง แม้ตำรวจศาลเข้ามาห้าม โดยมีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวจากฝ่ายไอทีว่าพริษฐ์ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริง จึงสั่งลงโทษ
โดยก่อนหน้านี้ทนายได้แย้งต่อศาลว่า เหตุใดพริษฐ์ไม่ได้อ่านหนังสือเรียน ที่ผ่านมาราชทัณฑ์ไม่อนุญาตให้มารดาของพริษฐ์ฝากหนังสือเรียนไว้ ผู้พิพากษาแจ้งกลับมาว่าสามารถทำได้ แต่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของราชทัณฑ์
นอกจากนี้ศาลได้เตือนถึงกรณีการเขียนจดหมายแนวทางการต่อสู้ของแกนนำว่าสามารถทำได้ แต่ห้ามเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทางทนายยืนยันว่าหากไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ก็ยังสามารถเผยแพร่ได้
สำหรับการไต่สวนในวันนี้ พริษฐ์ถูกควบคุมตัวมาโดยให้นั่งรถวีลแชร์ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่าพริษฐ์ค่อนข้างอ่อนแรง ดมยาดมตลอดเวลา
โดยทันทีที่เข้ามาในห้อง มารดาของพริษฐ์ซึ่งมีโอกาสพบหน้าลูกชายเป็นครั้งแรกหลังประกาศอดอาหารได้เข้ามาสวมกอดให้กำลังใจ
ก่อนที่พริษฐ์ได้แถลงต่อศาลในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิการประกันตัว แต่ศาลระบุว่าการไต่สวนครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาล ไม่เกี่ยวกับคดีอื่น ก่อนอนุญาตให้พริษฐ์ชี้แจงใน 5 นาที จากนั้นศาลได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งพริษฐ์ชี้แจงว่าไม่ได้เจตนาสร้างความวุ่นวาย เพียงแต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม และทราบว่าการกระทำดังกล่าวศาลสามารถลงโทษตนได้ และไม่เสียใจที่เสียอิสรภาพ แต่เสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้หารือกัน โดยจะนำเรื่องนี้ไปคุยกันอีกครั้งเมื่อเข้าไปเยี่ยมภายในเรือนจำ
ส่วนการไต่สวนกรณี อานนท์ นำภา แกนนำราษฎรเขียนจดหมายว่ากังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยจากการถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เรียกตัวไปตรวจโควิด-19 ยามวิกาลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กฤษฎางค์เปิดเผยว่า การไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 29 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น.
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า