วันนี้ (25 ตุลาคม) ที่รัฐสภา ภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับญัตติของพรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย เพราะมีเหตุผลในการไม่เห็นด้วย พรรคภูมิใจไทยมีเจตนาชัดเจน พรรคภูมิใจไทยเคยเสนอให้มี สสร. เพื่อยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ผ่านมา
ภราดรกล่าวว่า เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับญัตตินี้มี 3 ประการ ประการแรกคือ ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและหาแนวทางในการเดินหน้าเพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีความหลากหลาย มีความน่าเชื่อถือต่อสังคมมากพอสมควร ซึ่งน่าเสียดายที่พรรคก้าวไกลไม่เข้าร่วมกับกรรมการชุดนี้ เพื่อเสนอความเห็นและมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในคณะกรรมการ ไม่จำเป็นต้องมาเสนอญัตติในสภาแห่งนี้ผ่านวุฒิสภาเพื่อเสนอต่อรัฐบาล โดยไม่รู้ว่ารัฐบาลนำไปปฏิบัติหรือไม่
ประการที่สอง เนื้อหาของญัตตินี้พวกผมรับไม่ได้ ไม่สามารถลงมติเห็นด้วยในตัวญัตตินี้ได้ เพราะมีคำถามเสนอรัฐบาลคือ ประเด็นจะทำร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า ประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน” วันนี้ไม่มีใครกอดรัดกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เห็นว่าควรจะแก้ไข แต่ไม่เห็นด้วยเพราะคำถามว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และ 2 ซึ่งพรรคภูมิใจไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากหมวด 1 ว่าด้วยเรื่องของรัฐ และหมวด 2 ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญ
ภราดรกล่าวถึงเหตุผลประการที่สาม สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนนั้น การเลือกตั้งไม่ได้เป็นการรับประกันว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจะมีกลุ่มอาชีพและกลุ่มต่างๆ ทั้งตัวแทนจากทุกชนเผ่า ตัวแทนจากทุกศาสนา ภิกษุสงฆ์ คริสตจักร กลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ ซึ่งการเลือกตั้ง 100% ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ แต่ไม่ใช่ขัดขวางการเลือกตั้ง สสร. อาจมีการเลือกตั้ง สสร. แต่อาจเสริมตัวแทนทุกกลุ่มเข้าไปด้วยเพื่อเป็นทางออกได้หรือไม่
“นี่คือเหตุที่ผมไม่สามารถรับญัตติของเพื่อนสมาชิกได้…หลังจากการลงมติ อย่าไปตีความเจตนารมณ์พวกผมผิดว่าไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ หรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 หรือไปกอดรัดรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร” ภราดรกล่าว
