×

เผ่าภูมิโต้ณัฐพงษ์ ย้ำจัดทำงบ 69 บนความรับผิดชอบในกรอบวินัยการเงินการคลัง

โดย THE STANDARD TEAM
29.05.2025
  • LOADING...

วานนี้ (28 พฤษภาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณปี 2569

 

เผ่าภูมิระบุว่า ผู้นำฝ่ายค้านสามารถเปรยภาพรวมงบประมาณในหลายมิติ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้เห็นว่างบประมาณฉบับนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร มีภาพรวมเป็นอย่างไร และทิศทางอย่างไร แต่การเริ่มต้นที่ดีอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง หากใช้สมมุติฐานและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

 

เผ่าภูมิกล่าวว่า เราเห็นตรงกันว่าประเทศไทยกำลังเจอกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอน การบริหารงบประมาณจึงเป็นสิ่งสำคัญ และการจัดทำงบประมาณขาดดุลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การบอกว่าการขาดดุลมากขึ้นเรื่อยๆ
และสูงอย่างน่าตกใจ จึงอยากให้ดูในปีงบประมาณ 2568 เราขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 4.5% ของงบประมาณ ในปี 2569 เราขาดดุลลดลงเหลือ 4.3% และจะลดลงเหลือ 3.6% ในปี 2570 และลดลงเหลือ 3.1% ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็นได้ว่า รัฐบาลบริหารงบประมาณโดยความรับผิดชอบ จะมีการขาดดุลงบประมาณน้อยลงเรื่อยๆ

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังตั้งงบประมาณสำหรับใช้หนี้เงินต้นสูงที่สุดเท่าที่กฎหมายกำหนดให้ในขณะนี้ ประมาณ 4% แสดงถึงความรับผิดชอบ และวินัยการเงินการคลังที่รัฐบาลกำลังปฏิบัติ พร้อมทั้งยังแก้กฎเกณฑ์ เพิ่มเพดานการใช้หนี้เงินต้นเป็น 5% ดังนั้น ปีหน้าจะได้เห็นการใช้หนี้เงินต้นเพิ่มขึ้นอีกนี่คือความรับผิดชอบของรัฐบาลในการตั้งงบประมาณ

 

เผ่าภูมิกล่าวว่า การที่ผู้นำฝ่ายค้านบอกว่าสามารถบริหารงบประมาณได้เพียง 1 ใน 4 ของวงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ยอมรับว่าเป็นความจริง เพราะเรามีสัดส่วนงบประจำค่อนข้างเยอะ แต่ในงบประมาณฉบับนี้รัฐบาลพยายามปรับลดงบประจำ 1.05% ซึ่งไม่บ่อยที่จะเห็นแบบนี้ ถ้าดูจากสถิติงบประมาณประจำปีนี้อยู่ที่ 70.16% ต่ำสุดในรอบ 18 ปีที่ทำงบประมาณมาเพื่อเปิดช่องว่างสำหรับการลงทุนสำหรับประเทศในอนาคต

 

ส่วนที่ผู้นำฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นมีการจัดสรรไม่เพียงพอ เผ่าภูมิกล่าวว่า งบประมาณปีนี้มีการจัดสรรงบให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อยู่ที่ 29.43% ซึ่งมากขึ้นทุกปี และปีนี้ก็สูงสุดในประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของรัฐบาลในการกระจายรายได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลมีความพยายามในการส่งเสริมภาคบริโภคเพื่อดึงดูดภาคการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงการเติบโตในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาพรวมที่โตขึ้นติดต่อกัน 15 เดือน

 

“ส่วน VAT ในประเทศโตขึ้น 28 เดือนติด เป็นผลมาจากการบริหารของรัฐบาลที่ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งท่านจะเถียงตัวเลขนี้ไม่ได้ แต่ก็เห็นด้วยกับภาคการผลิตที่มีปัญหา โดยเฉพาะภาคยานยนต์ที่ติดลบมาโดยตลอด แต่เดือนเมษายนนี้ เป็นเดือนแรกที่พลิกกลับมาเป็นบวก และภาคอสังหาริมทรัพย์”

 

โดยในช่วงท้าย เผ่าภูมิย้ำว่า รัฐบาลได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการจัดทำงบประมาณปี 2569 ด้วยความรับผิดชอบ และเจตจำนงของการทำเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้เงื่อนไข และความท้าทายของประเทศที่กำลังจะเจอในอนาคต

 

จากนั้นณัฐพงษ์ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิง โดยระบุว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังน่าจะเห็นตรงกับตนเอง ในเรื่องของตัวเลข ในการประมาณการ หลายตัวเลขมีความคลาดเคลื่อนเล็กๆ น้อยๆ เช่น สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรัฐส่วนกลาง ซึ่งท่านได้ชี้แจงว่าในปี 2569 ได้จัดสรรมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2566 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้จัดสรรอยู่ที่ 29.81% แต่ในปี 2569 จัดอยู่ที่ 29.43% จึงถือว่าตัวเลขที่หยิบยกขึ้นมาไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หากจะยึดหลักในการดูตัวเลขเล็กๆน้อยๆเหล่านี้

 

“แต่สิ่งที่ผมอยากนำเสนอเป็นสาระสำคัญหลัก คือภาพรวมภาพใหญ่ว่าการจัดสรรงบประมาณปี 2569 แทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากการจัดสรรงบประมาณปี 2568 มีแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง” ณัฐพงษ์ระบุ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising