วานนี้ (27 มกราคม) มือปืนชาวปาเลสไตน์บุกก่อเหตุกราดยิงที่โบสถ์ยิวในเยรูซาเล็มตะวันออก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันสะบาโต (Sabbath) ที่ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาร่วมประกอบพิธีทางศาสนา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ตำรวจกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่มุ่งเป้าคร่าชีวิตชาวอิสราเอลรุนแรงสุดในรอบหลายปี และเสี่ยงจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้าง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 20.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาถึงโบสถ์ยิวในย่านเนเวยาคอฟ (Neve Yaakov) ของเยรูซาเล็ม ก่อนที่จะเปิดฉากกราดยิงประชาชนจำนวนมากในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
ภายหลังก่อเหตุ มือปืนได้ขับรถหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ แต่ในเวลาต่อมาก็ถูกสกัดไว้ได้จนมีการยิงต่อสู้กันเกิดขึ้น และในท้ายที่สุดคนร้ายก็ถูกวิสามัญฆาตกรรม ภายหลังเจ้าหน้าที่กล่าวว่า มือปืนเป็นชาวปาเลสไตน์วัย 21 ปี ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มตะวันออก
โคบิ ชาบไต (Kobi Shabtai) หัวหน้าตำรวจของอิสราเอล กล่าวว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นเป็นหนึ่งในการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดที่อิสราเอลเคยพบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังตรงกับวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล (International Holocaust Remembrance Day) ด้วย
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ อิตามาร์ เบน-กเวียร์ (Itamar Ben-Gvir) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุวานนี้ พร้อมให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศจะประกาศมาตรการเร่งด่วนเพื่อเป็นการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ชาวอิสราเอล ‘อย่าตัดสินความด้วยตนเอง’
อนึ่ง เหตุกราดยิงดังกล่าวยังเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์กำลังคุกรุ่น โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 มกราคม) มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหาร 9 คน ขณะที่กองทัพอิสราเอลบุกตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ในเขตเวสต์แบงก์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดการโจมตีตอบโต้กันอย่างหนัก โดยกลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดจากฉนวนกาซา ขณะที่อิสราเอลก็โต้กลับด้วยการโจมตีทางอากาศ
ภาพ: Mostafa Alkharouf / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: