กองทัพอินเดียเปิดเผยว่า กองกำลังปากีสถานได้เปิดฉากโจมตีหลายจุด โดยใช้โดรนและอาวุธหลากหลายชนิดตลอดแนวชายแดนด้านตะวันตกของอินเดีย ตลอดช่วงคืนวันพฤหัสบดีและเช้าวันนี้ (9 พฤษภาคม) ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสองชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
ความรุนแรงระลอกล่าสุดเกิดขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ (7 พฤษภาคม) อินเดียได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธใส่หลายจุดในปากีสถาน โดยระบุว่าเป็นค่ายฝึกกลุ่มก่อการร้าย เพื่อตอบโต้เหตุกราดยิงในแคชเมียร์เมื่อเดือนก่อน ซึ่งอินเดียกล่าวหาว่ารัฐบาลอิสลามาบัดมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น
ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองฝ่ายได้ยิงตอบโต้ข้ามพรมแดนใช้ทั้งปืนใหญ่ ขีปนาวุธ และโดรน รุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของกันและกัน จนมีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 50 คน
แถลงการณ์ของกองทัพอินเดียระบุว่า กองทัพปากีสถานได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง (Ceasefire Violations) หลายครั้ง โดยเฉพาะตามแนว เส้นแบ่งหยุดยิง (Line of Control) ในแคว้นแคชเมียร์ซึ่งทั้งสองฝ่ายอ้างกรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ แต่ควบคุมกันคนละส่วน
ฝั่งปากีสถานยังไม่มีแถลงการณ์ตอบโต้ในทันที ก่อนหน้านี้รัฐบาลอิสลามาบัดปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีเมืองปาทานโกฏในรัฐปัญจาบ, เมืองศรีนาการ์หรือศรีนครในหุบเขาแคชเมียร์ หรือเมืองไจซาลเมียร์ในรัฐราชสถานตามที่อินเดียกล่าวหา โดยเรียกข้อกล่าวหาเหล่านั้นว่า “ไร้มูลและมีแรงจูงใจทางการเมือง”
กองกำลังรักษาชายแดนอินเดียระบุว่า ได้ ขัดขวางความพยายามลักลอบแทรกซึมขนาดใหญ่ ในเขตซัมบาร์ของแคชเมียร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่มีการยิงปืนใหญ่ระลอกหนักในเขตอูรีอย่างต่อเนื่องในวันนี้ (9 พฤษภาคม)
ขณะที่ในเมืองอมฤตสาร์ ซึ่งอยู่ติดพรมแดนและเป็นที่ตั้งของวิหารทองคำ ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซิกข์มีเสียงไซเรนดังติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมงในเช้าวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน
ภาพ: Photo by Yawar Nazir / Getty Images
อ้างอิง: