เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ประกาศจะตอบโต้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอินเดียที่เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันพุธ (7 พฤษภาคม) ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพื้นที่ในปากีสถานและแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน โดยชี้ว่า “เป็นการประกาศสงคราม” และจะมีการตอบกลับอย่างเหมาะสม
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของปากีสถานต่อจากนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะถูก “ลดระดับ” หรือจะนำไปสู่การเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อ
Milan Vaishnav ผู้อำนวยการโครงการเอเชียใต้ จาก Carnegie Endowment for International Peace Think Tank กล่าวว่า หากปากีสถานสามารถยืนยันได้ว่า ยิงเครื่องบินอินเดียตกได้ถึง 5 ลำ (รวม Rafale 3 ลำ) ก็อาจเลือกประกาศชัยชนะทางยุทธศาสตร์ เพื่อแสดงว่าตนได้สร้าง “ต้นทุน” ให้ฝั่งตรงข้าม
ส่วน Tanvi Madan นักวิชาการอาวุโสจากฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสถาบัน Brookings วิเคราะห์ว่า ปากีสถานอาจเลือก “ตอบโต้เท่าทุน” โดยเฉพาะกรณีที่อินเดียโจมตีแคว้นปัญจาบ ซึ่งมีประชากรหนาแน่น นอกจากนี้ พลเอกอาซิม มูเนียร์ผู้นำกองทัพคนปัจจุบัน ยังได้รับการมองว่ามีท่าที แข็งกร้าว กว่าผู้นำรุ่นก่อนในปี 2019
อย่างไรก็ตาม มาดานเตือนว่าอินเดียส่งสัญญาณชัดว่า หากปากีสถาน “ตอบโต้เกินขอบเขต” ก็พร้อมจะตอบกลับทันที ทำให้ความเป็นไปได้ที่ปากีสถานจะเลือก ตอบโต้แบบควบคุมระดับ ยังเปิดอยู่ ซึ่งจากท่าทีของรัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน ยืนยันว่า หากมีการตอบโต้จะมุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารของอินเดีย โดยจะไม่แตะต้องพลเรือน มาดานสรุปว่า หากดูจากประวัติศาสตร์ความขัดแย้ง ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างก็เป็น “ผู้เล่นที่มีเหตุผล” และไม่มีฝ่ายใดอยากเผชิญกับสงครามเต็มรูปแบบเพราะต่างมีบางสิ่งที่ต้องสูญเสีย
ผู้นำโลกแสดงความกังวล เรียกร้องยับยั้งความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของผู้นำโลกรวมถึงบุคคลสำคัญในประเทศต่างๆ ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้น และหาทางออกเพื่อการเจรจาไปสู่สันติภาพ โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “หวังว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายจะจบโดยเร็ว” และย้ำว่า ความขัดแย้งนี้ดำเนินมายาวนานเกินไป
ส่วน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะพูดคุยกับทั้งอินเดียและปากีสถานเพื่อผลักดันทางออกทางการทูต
ขณะที่โฆษกของอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความ “กังวลอย่างยิ่ง” ต่อการโจมตีของอินเดีย และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นสูงสุดพร้อมเตือนว่า “โลกไม่สามารถแบกรับความขัดแย้งทางทหารระหว่างอินเดียและปากีสถานได้อีกแล้ว”
ด้านทางการจีน แสดงความเสียใจต่อการกระทำของอินเดีย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ส่วนสหราชอาณาจักร เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศ ระบุว่าความตึงเครียดที่เกิดขึ้นเป็น “ประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” พร้อมเรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานเปิดโต๊ะเจรจาโดยตรงโดยเร็ว
ขณะที่รัสเซียแสดงความวิตกอย่างลึกซึ้งต่อการเผชิญหน้าทางทหารที่เกิดขึ้นและขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์ในภูมิภาคเลวร้ายลง
ภาพ: Pakistan’s PM Office / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: