ปากีสถานเดินหน้านับคะแนนผลการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นวานนี้ (8 กุมภาพันธ์) ภายหลังเผชิญเหตุรุนแรง ทั้งการวางระเบิดและยิงโจมตีเพื่อขัดขวางการลงคะแนนเสียง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน ขณะที่ทางการได้ระงับสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการก่อเหตุ
โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง 2 พรรคการเมืองหลัก ได้แก่ พรรค PML-N ของ นาวาซ ชารีฟ (Nawaz Sharif) อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรค PPP ที่นำโดย บิลาวัล บุตโต ซาร์ดารี (Bilawal Bhutto Zardari) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน
ขณะที่พรรค PTI ของอดีตนายกรัฐมนตรี อิมรอน ข่าน (Imran Khan) ซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งครั้งก่อน ต้องส่งสมาชิกลงสมัครในฐานะผู้สมัครอิสระ เนื่องจากข่าน ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งในปี 2022 และมีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ถูกตัดสินจำคุกข้อหาคอร์รัปชันช่วงปลายปีที่ผ่านมา และถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ช่วงก่อนและระหว่างการเลือกตั้งเกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายครั้งโดยฝีมือกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย ส่งผลให้ทางการต้องระงับสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตในหลายพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ และทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 กุมภาพันธ์) เกิดระเบิด 2 ครั้งใกล้สำนักงานผู้สมัครเลือกตั้งในแคว้นบาลูจิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
ขณะที่วานนี้ก็เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดและยิงใส่รถตู้ตำรวจที่เมืองเดรา อิสมาอิล ข่าน (Dera Ismail Khan) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงตำรวจ 4 นาย ซึ่งบางนายมีภารกิจดูแลความปลอดภัยระหว่างการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม การนับคะแนนเลือกตั้งนั้นเป็นไปค่อนข้างล่าช้าเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2018 ที่รู้ว่าพรรคใดมีแนวโน้มจะชนะเลือกตั้งตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความโปร่งใส จนทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เร่งดำเนินการ โดย ซาฟาร์ อิกบัล เลขาธิการ กกต. ของปากีสถาน อ้างว่าปัญหาการระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตส่งผลให้การนับคะแนนนั้นล่าช้า
ภาพ: Hussain Ali / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง:
