วันนี้ (20 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้ออกมาเผยข้อมูลส่อทุจริตในโครงการ ‘เที่ยวปันสุข’ มีการเรียกเก็บค่าหัวคิวในงบกระตุ้นการท่องเที่ยวให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ว่ากรรมาธิการได้เชิญตัวแทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจงถึงสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ซึ่งหากกรรมาธิการพบว่ามีประเด็นปัญหาใดติดค้าง การชี้แจงไม่ชัดเจน จะมีการตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบและลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริงทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่ากรรมาธิการต้องการให้ทุกโครงการเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้
ไพบูลย์ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีต้องพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรีด้วยว่า ตนเห็นว่าสัดส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังควรคงอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ และขอให้สังคมเข้าใจถึงความถูกต้องในหลักการการร่วมรัฐบาล ส่วนภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ตนจะเสนอชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องจากเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและเป็น ส.ส. ของพรรค แต่การจะมีผู้เสนอชื่อ ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ซึ่งเป็นอดีตประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. นั้น ตนเห็นว่าผู้จะเข้ามาหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะต้องเข้าไปกำกับดูแลส่วนดังกล่าว หากเสนอชื่อไพรินทร์จะไม่สามารถตอบสังคมเรื่องประโยชน์ทับซ้อนได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
